วันนี้คุณใช้สิทธิของมนุษย์เงินเดือนได้คุ้มแล้วหรือยัง

โดย SET
2 Min Read
26 พฤศจิกายน 2563
4.513k views
TSI_Article_032_PF_Thumbnail
Highlights
  • มนุษย์เงินเดือนมีรายได้ประจำที่สม่ำเสมอและคาดการณ์ได้ จึงควรวางแผนบริหารจัดการไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรเงินออม การวางแผนภาษี และการวางแผนเกษียณ

  • มนุษย์เงินเดือนควรสำรวจสวัสดิการของที่ทำงานและใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างเต็มที่ เพื่อวางแผนสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตนเอง

“เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ ทำงานอีก 20 ปีก็ไม่มีวันรวย”

 

คนทำงานกินเงินเดือน ฟังแล้วแสนน้อยอก น้อยใจ แถมบางคนเริ่มยอมรับกับชะตากรรมว่าชาตินี้คงไม่ได้หยิบเงินล้านแน่ๆ แต่อย่าคิดมากไปเลยการเป็นมนุษย์เงินเดือนแม้จะมีรายได้ที่ไม่ได้หวือหวาแบบฟรีแลนซ์หรือเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จ แต่ก็มีข้อดีอยู่ที่การมีรายได้สม่ำเสมอ รู้ล่วงหน้าได้ว่าเงินเดือนจะออกเมื่อไหร่ ทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ ในแต่ละเดือนได้ ยิ่งถ้ารู้จักวางแผนการเงิน จัดสรรปันส่วนรายได้ไปเก็บออมอย่างต่อเนื่อง พร้อมวางแผนใช้สิทธิประโยชน์อื่นๆ ในฐานะมนุษย์เงินเดือนให้เกิดประโยชน์สูงสุด หนทางสู่ความมั่งคั่งก็รออยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป


แล้วจะทำอย่างไรเพื่อตั้งต้นเส้นทางสู่ความมั่งคั่ง
?


เริ่มง่ายๆ ได้ที่ 4 สิทธิประโยชน์มนุษย์เงินเดือน”
 

  1. สิทธิประโยชน์ของสวัสดิการที่ทำงาน เราสามารถวางแผนการเงินสำหรับตนเองและครอบครัวจากสวัสดิการที่ได้รับ รวมทั้งยังสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจซ้ำซ้อนกับสวัสดิการต่างๆ ได้อีกด้วย เช่น

  • สวัสดิการด้านสุขภาพ : การทำประกันกลุ่มให้กับพนักงานและครอบครัว โดยคุ้มครองในเรื่องชีวิต อุบัติเหตุ ทุพพลภาพ รักษาพยาบาลและโรคร้ายแรง
  • สวัสดิการด้านการเงิน : การจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยให้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ ทั้งเงินฝากและเงินกู้ เพื่อส่งเสริมวินัยการออมและเปิดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต
  • สวัสดิการด้านการศึกษา : การให้ทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก รวมทั้งทุนอบรมสัมมนาต่างๆ เพื่อให้พนักงานได้พัฒนาตนเองและองค์กรต่อไปในอนาคต

  1. สิทธิประโยชน์ทางภาษี มนุษย์เงินเดือนสามารถวางแผนภาษีได้ง่ายกว่าฟรีแลนซ์หรือเจ้าของกิจการ เพราะคาดการณ์รายได้ได้ค่อนข้างแน่นอน ดังนั้นอย่ามองข้ามข้อได้เปรียบนี้ เริ่มต้นวางแผนภาษีตั้งแต่ต้นปี ด้วยการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพื่อเพิ่มเงินออมเข้ากระเป๋าให้ได้มากที่สุด เช่น การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออม(SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) การซื้อประกันชีวิต การซื้อประกันสุขภาพให้กับบิดามารดา การบริจาคเงินให้มูลนิธิและสถานศึกษา เป็นต้น

  1. สิทธิประโยชน์ของกองทุนประกันสังคม เพราะมีทั้งเงินสะสมและเงินสมทบจากนายจ้างทุกเดือน ซึ่งเงินทั้งหมดจะถูกนำไปบริหารให้งอกเงยเพื่อให้ความคุ้มครองสมาชิกกองทุนฯ ทั้งเรื่องการเจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุ คลอดบุตร เสียชีวิต และผลประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน นอกจากนี้ยังมีเงินบำเหน็จชราภาพให้ใช้ในยามเกษียณอีกด้วย เห็นมั้ยว่าเงินที่หักไปเข้ากองทุนฯ ทุกเดือนๆ ให้สิทธิประโยชน์แก่มนุษย์เงินเดือนมากมาย

  2. สิทธิประโยชน์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุน กบข. ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับสวัสดิการดีๆ เช่นนี้ ดังนั้นหากใครได้รับสิทธินี้ ก็ควรใช้สิทธิให้เต็มที่ ด้วยการสะสมเงินให้เต็มตามอัตราที่กองทุนกำหนด และเลือกทางเลือกลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะทั้งเงินสะสมและเงินสมทบที่ใส่เข้าไปในกองทุนฯ ตลอดระยะเวลาการทำงาน จะงอกเงยมาช่วยให้เรามีชีวิตวัยเกษียณที่มั่นคงได้ไม่ยากเลย หากยังนึกภาพไม่ออกลองมาคำนวณกันดูว่า ถ้าวางแผนเกษียณด้วยการเก็บสะสมเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุน กบข. เมื่อเกษียณแล้วเงินก้อนนั้นจะโตเป็นเท่าไหร่? เพียงพอหรือไม่? ด้วยโปรแกรม “วางแผนออมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” >> คลิกที่นี่

 

เห็นหรือยังว่า... การเป็นมนุษย์เงินเดือนมีข้อดีอยู่มากมาย หากเราใช้สิทธิประโยชน์จากสวัสดิการต่างๆ ให้เต็มที่ บวกกับมีการวางแผนการเงินที่เหมาะสมกับตัว รับรองมีเงินเหลือกินเหลือใช้ในบั้นปลายชีวิตอย่างแน่นอน

แท็กที่เกี่ยวข้อง: