4 เคล็ดลับจัดการเงิน...สำหรับ Gen Z

โดย อธิป กีรติพิชญ์ Facebook Fanpage : นิ้วโป้ง Fundamental VI
3 Min Read
20 มกราคม 2566
8.021k views
4-เคล็ดลับจัดการเงิน...สำหรับ-Gen-Z
Highlights
  • เจน Z เป็นเจนที่พบกับความท้าทายในการวางแผนการเงิน เพราะถูกกระตุ้นการบริโภคให้ใช้จ่ายอยู่ตลอดเวลาทั้งจากโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ ยังต้องพบกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไวทำให้อาชีพการงานมีความไม่แน่นอนสูง ความรู้ล้าสมัยเร็ว การวางแผนการเงินไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ

  • การสร้างความมั่งคั่งสำหรับคนเจน Z นั้นเป็นไปได้ ถ้ารู้จักเคล็ดลับการออม เคล็ดลับการใช้เงิน เคล็ดลับการหาเงิน เคล็ดลับการต่อเงิน (ลงทุน) และเริ่มลงมือทำทันที

โลกปัจจุบัน มีการแบ่งกลุ่มประชากรแบบใช้ช่วงอายุเป็นเครื่องมือ โดยแบ่งเป็น 4 เจนเนอเรชั่น (4 เจน) ได้แก่ เจนเบบี้บูมเมอร์, เจน X, เจน Y และ เจน Z โดยใช้ปีเกิดเป็นการจำแนกซึ่งอาจจะจำได้ค่อนข้างยาก หนึ่งในวิธีที่จะจำได้ง่าย คือ เจนเบบี้บูมเมอร์คือช่วงวัยเกษียณหรือใกล้เกษียณ เจน X คือช่วงวัยกลางคน เจน Y คือวัยผู้ใหญ่กำลังสร้างตัวสร้างครอบครัว และเจน Z คือวัยรุ่นถึงวัยเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ ๆ (First Jobber)

 

คนแต่ละกลุ่มมีช่วงเวลาการเติบโต ปัจจัยแวดล้อม และพฤติกรรมการบริโภคที่แตกต่างกัน มีทัศนคติต่อชีวิตไม่เหมือนกัน และเป็นที่ทราบกันดีว่า ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่อินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนเข้ามาสู่มือของคนทุกเพศทุกวัยและครอบคลุมแทบทุกชนชั้น ตอกย้ำด้วยสภาวะโรคระบาดในรอบร้อยปีอย่าง COVID-19 ที่ดำเนินมาต่อเนื่อง 3 ปี ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวมถึงเรื่องอาชีพการงานและการลงทุน

 

เจน Z คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2540 – 2555 พวกเขาคือคนวัยทำงานที่อายุน้อยที่สุดในปัจจุบัน และคนที่กำลังจะเข้าสู่โลกการทำงานในอีก 10 ปีข้างหน้า ก็มาจากเจน Z ทั้งสิ้น พวกเขาคือ Digital Native” เป็นคนกลุ่มแรกในโลกที่เกิดและเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่พัฒนาแล้ว ทุกอย่างมีความรวดเร็วฉับไว มีโทรศัพท์มือถือทุกบ้านตั้งแต่พวกเขาเกิดไม่นาน พร้อมกับอินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน และสารพัดโซเชียลมีเดีย เช่น LINE, IG, Tiktok, Twitter, Facebook เป็นต้น ไม่ชอบเล่นเกมคนเดียว แต่เล่นเกมออนไลน์ที่เล่นบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีผู้เล่นหลายคนพร้อมกัน ใช้ Search Engine ค้นคว้าข้อมูลอย่างรวดเร็ว เป็นกลุ่มหลักที่กำหนด Google Trend หรือแฮชแท็กเทรนด์ทวิตเตอร์ และใช้เวลาในแต่ละวันอยู่บนโลกออนไลน์สูง

 

เจน Z มีข้อได้เปรียบเจนอื่น คือ ทักษะความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย และว่องไวในการค้นหาข้อมูลข่าวสารอย่างที่คนเจนอื่นตามไม่ทัน แต่ในเชิงการเงินส่วนบุคคลแล้ว เจน Z ต้องพบกับความท้าทายอย่างมาก เพราะถูกกระตุ้นการบริโภคอยู่ตลอดเวลาจากสารพัดโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ถึงกับมีคำกล่าวว่า นี่คือยุคสมัยที่เก็บตัวอยู่บ้าน นอนอยู่บนเตียงก็ใช้เงินเดือนหมดได้ จากการชอปปิงออนไลน์

 

นอกจากนี้ เจน Z ในวัยเริ่มทำงานก็พบกับยุคสมัยที่อาชีพการงานเริ่มหายาก แข่งขันสูง โอกาสที่เปิดกว้างแบบเติบโตไปตลอดชีวิต มีน้อยกว่ายุครัฐวิสาหกิจหรือยุคบริษัทเอกชนไทยขนาดใหญ่ ที่เคยเป็นโอกาสของรุ่นพี่เจนก่อนหน้า โลกที่เปลี่ยนแปลงไวทำให้อาชีพการงานมีความไม่แน่นอนสูง ความรู้ล้าสมัยเร็ว จึงต้องคำนึงถึงการวางแผนการเงินไว้แต่เนิ่น ๆ และที่สำคัญคือ เจน Z จำเป็นต้องคิดถึงการพึ่งพาตนเองให้ได้ เพราะมักจะมีพี่น้องน้อย หลายคนเป็นลูกคนเดียว หลายคนอาจจะเลือกไม่แต่งงาน และถึงแม้ว่าแต่งงานก็อาจจะเลือกที่จะมีลูกน้อยหรือไม่มีลูกเลยก็ได้ ดังนั้น จึงเป็นเจนที่ไม่สามารถหวังพึ่งพาคนอื่น (พี่ น้อง ลูก หลาน) ได้มากนักเมื่อตนเองเข้าสู่วัยชรา

 

ทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้การวางแผนการเงินสำหรับคนเจน Z เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง

 

จากประสบการณ์ส่วนตัว เคยเจอคนรุ่นใหม่เจน Z ที่เพิ่งเข้าสู่ระบบการทำงาน ก็มักจะมีปัญหาเรื่องการเงินส่วนบุคคลคล้ายกัน คือ แม้จะเริ่มทำงานหาเงินเองได้แล้ว แต่เงินเดือนเริ่มต้นยังไม่สูง ในขณะที่ต้องเริ่มรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในชีวิตทุกอย่าง ทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น และไหนจะต้องกันเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่ออนาคต เช่น เตรียมศึกษาต่อ ค่าเรียนเสริมทักษะอาชีพ เงินลงทุนต่อยอด และอื่น ๆ ทำให้เงินเก็บแทบไม่มี หรือบางเดือนอาจถึงขั้นไม่พอรายจ่ายทั้งหมด

 

ผมเข้าใจและเห็นใจคนรุ่นใหม่มาก เพราะเมื่อ 26 ปีก่อน ตอนเรียนจบมาใหม่ ๆ ผมเองก็ไม่มีเงินเก็บเหมือนกันครับ ตอนนั้นได้พ่อแม่ รุ่นพี่ และเพื่อนฝูงกัลยาณมิตรดี ที่ให้แนวความคิดเรื่องการเงินส่วนบุคคลที่เป็นประเด็นสำคัญไว้ คือ การจัดการเรื่องเงินที่ดี เรื่อง สำหรับวัยรุ่นสร้างตัว ได้แก่ (1) ออมเงินได้  (2) ใช้เงินเป็น (3) หาเงินเก่ง และ (4) ต่อเงินงอกเงย ซึ่งผมคิดว่ามีประโยชน์มาก และผมเองก็ใช้เป็นแผนจัดการเรื่องเงินมาตั้งแต่อายุเท่า ๆ กับเจน Z ในวันนี้  

 

ความมั่งคั่งนั้นเป็นไปได้ ถ้ารู้จักเคล็ดลับการออม เคล็ดลับการใช้เงิน เคล็ดลับการหาเงิน เคล็ดลับการต่อเงิน (ลงทุน) และเริ่มลงมือทำทันที ตั้งแต่มีรายได้เดือนแรกในชีวิต

 

  • เคล็ดลับการออมให้ได้

ฟังดูเป็นเรื่องง่าย ๆ คือต้องออมก่อนใช้จ่ายเสมอ และออมไว้อย่างน้อย 10% แต่เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนจำนวนมาก บางท่านอาจจะทำได้มากกว่า 10% เพราะตัวเบาภาระน้อย ก็จะผ่านข้อนี้ได้ง่าย แต่บางท่านอาจจะทำได้น้อยกว่านี้ เพราะภาระยังมีอยู่เยอะ ซึ่งไม่เป็นไรครับ ยังไงก็ต้องตั้งเป้าออมเงินให้ได้ไว้ก่อน และเริ่มลงมือทำแม้ว่าจะออมได้ทีละน้อยก็ตาม สร้าง Mindset ชุดความคิดว่าเราต้องออมเงินให้ได้ เมื่อมีรายได้สูงขึ้น หรือปลดภาระทางการเงินออกไปได้ อัตราการออมจะเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

 

  • เคล็ดลับใช้เงินให้เป็น

การใช้เงินให้พอดี ไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป จำแนกให้ออกว่า อะไร Need to have (จำเป็นต้องมีและอะไร Nice to have (มีก็ดี แต่ไม่มีก็ได้) ของบางอย่างที่ไม่ควรซื้อ ราคาถูกแค่ไหนก็อย่าไปซื้อเลย เช่น ของฟุ่มเฟือย สินค้ากระแสแฟชั่นที่เราไม่ต้องการจริง ๆ หรือใช้ไม่กี่ครั้งก็เบื่อก็ทิ้ง ในขณะที่ของบางอย่างจำเป็นต้องใช้ก็ต้องซื้อ ต่อให้แพงหน่อย เราก็จำเป็นต้องซื้อ เช่น อุปกรณ์ไอทีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน บ้านเพื่อใช้อยู่อาศัย หรือ รถยนต์เพื่อใช้ในการเดินทางทำงานประกอบธุรกิจ

 

โดยในช่วงชีวิตของเรา จะมีโอกาสต้องใช้เงินก้อนใหญ่กับทรัพย์สินก้อนใหญ่ที่จำเป็น เช่น บ้าน รถยนต์ อุปกรณ์ไอที หรือ เครื่องจักรเพื่อทำธุรกิจ เป็นต้น ทรัพย์สินเหล่านี้อาจจะจำเป็นต้องก่อหนี้เพื่อลงทุนซื้อ เมื่อสร้างหนี้แล้ว เราจำเป็นต้องใช้หนี้ด้วยซึ่งอาจจะกินเวลายาวนาน 5-10-20 ปี หลักการคือ เอาที่พอดีตัว ไม่ต้องเป็นรุ่นท็อปทุกอย่าง จำไว้ว่ายิ่งชีวิตปลอดหนี้เร็วเท่าไหร่ ก็จะออมเงินได้ และลงทุนต่อยอดได้เร็วขึ้นเท่านั้น

 

  • เคล็ดลับการหาเงินเก่ง
ข้อนี้ใครที่เรียนจบมาในสายวิชาชีพที่ทำเงินได้มาก จะได้เปรียบเป็นพิเศษ เพราะการจะมีเงินออมได้มาก ไม่สามารถมาจากการลดรายจ่ายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเพิ่มรายได้ด้วย ซึ่งการเพิ่มรายได้อาจจะมาจากการสร้างทักษะความชำนาญในสายวิชาชีพ เพื่อได้เงินเดือนเพิ่ม แพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญพิเศษ วิศวกรไฟฟ้าที่มีใบอนุญาตและประสบการณ์ นักการเงินผู้เชี่ยวชาญเรื่อง M&A และนำกิจการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และอีกสารพัดอาชีพที่มีหลักการร่วมกันคือ การพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญเพื่อเป็นคนเก่งจริงของสายอาชีพ จะนำไปสู่เงินเดือนเพิ่มขึ้น ค่าวิชาชีพเพิ่มขึ้น ค่าที่ปรึกษาเพิ่ม เป็นต้น หรืออาจจะเป็นการเสริมสร้างทักษะด้านการบริหารเพื่อเพิ่มโอกาสก้าวหน้าในอาชีพการงานในองค์กรที่ทำงานอยู่
 
อีกวิธีหนึ่ง คือ การสร้างรายได้หลายทาง (Multiple sources of incomes) ซึ่งโลกทุกวันนี้เปิดกว้าง เราเห็นแพทย์มีอาชีพที่สองเป็นติวเตอร์ เราเห็นคนจบอักษรศาสตร์มีอาชีพเป็นที่ปรึกษาด้านไอที เราเห็นวิศวกรมีอาชีพที่สองเป็นนักลงทุน เป็นต้น นี่คือยุคอาชีพที่สอง ธุรกิจที่สาม การงานที่สี่ อย่าลืมว่า “การมีน้ำหลายบ่อ ย่อมดีกว่าบ่อเดียว
 
  • เคล็ดลับการลงทุน
ต้องเข้าใจว่า การลงทุน คือ การนำเงินสดไปแลกกับสินทรัพย์ ซึ่งสินทรัพย์เพื่อการลงทุนก็มีทั้ง 1) สินทรัพย์เพื่อใช้งาน 2) สินทรัพย์เพื่อขาย และ 3) สินทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ ถ้าเราเป็น First Jobber เพิ่งเริ่มทำงาน มีรายได้ มีเงินออมก็มักจะเริ่มจากสินทรัพย์ข้อ 1) สินทรัพย์เพื่อใช้งาน เช่น บ้านที่อยู่อาศัย หรือ รถยนต์ ซึ่งคนในยุคสมัยผมเอง ถือเป็นของจำเป็น บ้านมีไว้อยู่อาศัยและยังเพิ่มค่าตามเวลา รถยนต์มีไว้ใช้เดินทางช่วยเพิ่ม Productivity ปัจจุบันคนรุ่นใหม่อาจจะเลือกที่จะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ เพราะมีทางเลือกในการเช่าบ้านและการใช้รถไฟฟ้าซึ่งสะดวกดี สิ่งสำคัญคือ เราต้องมั่นใจว่าจะผ่อนชำระคืนเงินกู้จากการซื้อบ้านซื้อรถได้โดยไม่ทำลายคุณภาพชีวิตปกติจนเกินไป (ไม่ผ่อนเกินตัว) หากทำอย่างนี้ได้ ถือว่าสอบผ่านด่านแรก

ต่อมาคือ การลงทุนกับ 2) สินทรัพย์เพื่อขาย และ 3) สินทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ ให้จินตนาการดูว่า สินทรัพย์เพื่อขายคือ ฟาร์มวัวเนื้อ ส่วนสินทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ คือ ฟาร์มวัวนม
 
การลงทุนในสินทรัพย์เพื่อขาย เปรียบเหมือนเลี้ยงวัวเนื้อโตเร็วเพื่อขายเอากำไร คือ การมองหาลู่ทางลงทุนในทรัพย์สินที่มีโอกาสเพิ่มค่าเร็ว เมื่อเพิ่มค่าก็ต้องขายออกเพื่อ Take Profit เช่น หุ้น ที่ดิน คอนโด งานศิลปะ ของโบราณ คริปโทเคอร์เรนซี เป็นต้น ทุกอย่างที่ซื้อมาเพื่อหวังขายทำกำไร เพื่อให้เงินทุนที่มีเติบโตงอกเงยได้รวดเร็ว วิธีนี้มีข้อควรระวัง คือ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เพราะราคาหุ้น ราคาอสังหาริมทรัพย์ ราคางานศิลปะ ราคาคริปโทเคอร์เรนซี ไม่ได้มีราคาขึ้นตลอด บางครั้งราคาตกต่ำลง บางครั้งตั้งขายไม่มีใครซื้อทำให้เงินทุนจม เกิดขาดทุนได้ ซึ่งผมเองก็เคยโดนมาแล้ว และทุกคนที่เดินสายนี้ต้องเคยมีประสบการณ์ เมื่อโดนก็ไม่ต้องใจเสีย แต่ต้องนำมาเป็นบทเรียนเพื่อครั้งหน้าจะวิเคราะห์การลงทุนให้ดีขึ้น
 
การลงทุนในสินทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ เปรียบเหมือนเลี้ยงวัวนม เพื่อรับกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอ เป็นการลงทุนในทรัพย์สินที่ให้รายได้คืนกลับมาอย่างต่อเนื่อง เหมือนการรีดนมวัวได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ขายวัว เช่น การฝากธนาคาร พันธบัตร หุ้นกู้ เพื่อกินดอกเบี้ย หรือ ลงทุนในหุ้นปันผล กองรีท (REIT) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) คอนโดให้เช่า โกดังให้เช่า อพาร์ตเมนต์ให้เช่า หรือทรัพย์สินอื่น ๆ ที่สามารถให้กระแสรายได้ เข้ามาแบบระยะยาว โดยเฉพาะการทยอยลงทุนในหุ้นปันผล เจน Z อายุยังน้อยสามารถอยู่ในตลาดหุ้นได้อีกนาน จะมีโอกาสเก็บหุ้นเพิ่มเมื่อตลาดหุ้นตกต่ำลงโดยเฉพาะเมื่อเกิดวิกฤติ ทำไปเรื่อย ๆ แม้เริ่มจากเงินน้อย ด้วยระยะเวลาการสะสมที่ยาวนาน ก็มีโอกาสเป็นเจ้าของพอร์ตลงทุนที่เต็มไปด้วยหุ้นปันผลชั้นดีได้ และเมื่อทำต่อเนื่องสม่ำเสมอ ยิ่งเวลาผ่านไป ก็อาจมีพอร์ตใหญ่โตขึ้นถึงจุดที่จำนวนเงินปันผลที่ได้รับต่อปี สามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว โดยไม่ต้องทำงานก็ได้ นั่นคือจุดอิสรภาพทางการเงินนั่นเอง

เจน Z ยุคนี้ จะต้องไม่ประมาททางการเงิน เรามีความได้เปรียบด้านระยะเวลาในการลงทุน เพราะอายุยังน้อย จึงควรวางแผนการจัดการเรื่องเงินที่ดี 4 เรื่อง ทั้ง (1) ออมเงินได้  (2) ใช้เงินเป็น (3) หาเงินเก่ง และ (4) ต่อเงินงอกเงย ลองนำเคล็ดลับการลงทุนนี้ ไปปฏิบัติใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุด เจน Z ท่านใดที่ทำเรื่องนี้ได้ดี จะพบความสงบสุขทางใจและมีความได้เปรียบทางการเงินกว่าเพื่อนร่วมยุคสมัยเป็นอย่างมาก 
 

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใช้เพื่อสำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน

 

สำหรับใครที่สนใจ เรียนรู้เทคนิคการจัดสรรเงินออมและการลงทุนแบบ DCA เพื่อสร้างวินัยในการออมให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงิน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร วางแผนสร้างเงินออมเพื่ออนาคต” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่


แท็กที่เกี่ยวข้อง: