หุ้นยักษ์ใหญ่ ระดับโลกที่ซื้อได้ ผ่านตลาดหลักทรัพย์

       วิธีลงทุนในหุ้นต่างประเทศมีด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกองทุนรวมต่างประเทศ หรือเปิดบัญชีเพื่อซื้อหุ้นต่างประเทศโดยตรง แต่ก็แอบยุ่งยากในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนบ้าง เงินลงทุนขั้นต่ำบ้าง แล้วถ้าอยากเป็นหุ้นส่วนบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก แบบงบน้อย ซื้อขายเป็นเงินบาท ซื้อขายได้ผ่านแอป Streaming ต้องทำอย่างไร ?

บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ DR และ DRx ที่ช่วยให้เรากระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศได้แบบไม่ยุ่งยากเลย

ความแตกต่างของ DR และ DRx

DR (Depositary Receipt)

เป็นตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศที่จดทะเบียนให้ซื้อขายได้เหมือนหุ้น โดยผู้ออก DR ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. จะเป็นผู้ที่ไปซื้อหุ้นต่างประเทศมา แล้วเสนอขายหุ้นต่างประเทศนั้นให้กับผู้ลงทุนไทยในรูปสกุลเงินบาท เหมือนการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีสัดส่วน 1 DR = หุ้นต่างประเทศ 1 หลักทรัพย์ ดังนั้นผู้ถือ DR จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เสมือนไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศโดยตรง

DRx (Fractional Depositary Receipt) 

เป็นตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศเช่นเดียวกับ DR ที่ผู้ออกไปซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศแล้วนำมาเก็บรักษาไว้กับผู้รับฝากทรัพย์สิน จากนั้นก็ออก DRx เสนอขายให้ผู้ลงทุนไทยที่สนใจ เรียกได้ว่าเป็น DR ไซซ์เล็ก ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นหรือหน่วยลงทุนต่างประเทศ ซึ่งมีข้อดีกว่า DR ทั่วไปตรงที่ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้ตามเวลาของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ และสามารถซื้อขายเป็นจำนวนเงินบาท หรือจำนวนหน่วยก็ได้

ปัจจุบัน DRx ที่มีให้ซื้อขายในตลาดหุ้นไทยที่อ้างอิงกับหุ้นต่างประเทศ มีด้วยกัน 2 ตัว ดังนี้

1. หุ้น AAPL80X : Apple Inc.

บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ก่อตั้งในปี 1976 โดย Steven Wozniak, Steven Jobs และ Ronald Wayne ซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุดล้ำอย่าง iPhone, Mac, Apple Watch และ iPad ซึ่งมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งทั่วโลกจากความสามารถในการสร้าง ecosystem ของตัวเอง

โดยในปี 2022 / Q4 มีรายได้รวมอยู่ที่ 90,146 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นกำไรสุทธิ 20,721 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อ้างอิง : https://www.apple.com/newsroom/pdfs/FY22_Q4_Consolidated_Financial_Statements.pdf 

บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด สัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งเมื่อปี 2003 ที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมยานยนต์อันดับต้น ๆ โลก ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างระบบ Autopilot หรือ AI ช่วยขับ เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์แรกที่นำระบบดังกล่าวติดตั้งในรถไฟฟ้า 100% ที่ใช้งานจริงบนถนนจริง

ผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันของ Tesla ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้า Model S, Model 3, Model X, และ Model Y การจัดเก็บพลังงานแบตเตอรี่ Powerwall, Powerpack และ Megapack ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ แผงโซล่าร์เซลล์ Solar City และกระเบื้องหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์

โดยในปี 2022 / Q3 มีรายได้รวมอยู่ที่ 21,454 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นกำไรสุทธิ 3,292 ล้านเหรียญสหรัฐฯ


อ้างอิง : https://tesla-cdn.thron.com/static/WTULXQ_TSLA_Q3_2022_Update_KPK2Y7.pdf?xseo=&response-content-disposition=inline%3Bfilename%3D%22tsla-q3-2022-update.pdf%22 

ปัจจุบัน DR ที่มีให้ซื้อขายในตลาดหุ้นไทยที่อ้างอิงกับหุ้นต่างประเทศ มีด้วยกัน 4 ตัว ดังนี้

1. หุ้น BABA80 : Alibaba Group Holdings Ltd ADR

บริษัทอีคอมเมิร์ซชั้นนำของโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1999 เป็นธุรกิจตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หรือบางคนเรียกว่าเว็บไซต์ B2B โดยจะได้ค่าโฆษณาที่ผู้ขายต้องการวางสินค้า เช่น เว็บ Alibaba Taobao Tmall

ปัจจุบัน Alibaba Group ได้ขยายธุรกิจเพื่อตอบรับแนวคิดเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยกลุ่มธุรกิจประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก คลาวด์คอมพิวติ้ง สื่อดิจิทัลและสื่อบันเทิง การบุกเบิกนวัตกรรม รวมถึงธุรกิจในด้านอื่น ๆ อีกด้วย

โดยในปี 2022 / Q3 มีรายได้รวมอยู่ที่ 29,124 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นกำไรสุทธิ 4,754 ล้านเหรียญสหรัฐฯ


อ้างอิง : https://data.alibabagroup.com/ecms-files/1532295521/7bfce448-276b-4f77-8f50-ad183a04b45a.pdf

2. หุ้น XIAOMI80 : Xiaomi Corp.

บริษัทผู้ผลิตและลงทุนเกี่ยวกับอุปกรณ์ Electronics และอุปกรณ์อัจฉริยะ สัญชาติจีน โดยมีทั้ง Smartphone และ Hardware อัจฉริยะที่เชื่อมกันด้วย IoT ตลอดจนสินค้าอื่น ๆ เช่น กระเป๋า รองเท้า เป็นต้น และในอนาคต Xiaomi ก็สนใจที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองออกมาขายด้วยเช่นกัน และด้วยความหลากหลายของสินค้า เหมือนขายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ จึงมีคนเปรียบเทียบ Xiaomi ว่า “พระเจ้าสร้างโลก แต่ที่เหลือ Xiaomi เป็นผู้สร้าง”

โดยในปี 2022 / Q3 มีรายได้รวมอยู่ที่ 70,474.3 ล้านหยวน เป็นกำไรสุทธิ 2,117.3 ล้านหยวน


อ้างอิง : https://ir.mi.com/system/files-encrypted/nasdaq_kms/assets/2022/11/23/4-48-56/Annoucement_22Q3_EN.pdf

บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของจีน ก่อตั้งโดย Pony Ma ในปี 1998 ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีแอปพลิเคชัน โดยส่วนมากจะอยู่ในหมวด Entertainment ไม่ว่าจะเป็น WeChat, RoV, PUBG, Joox, Shopee และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยผลิตภัณฑ์แรกคือ โปรแกรมแชต QQ และหนึ่งในแอปที่ได้รับความนิยมที่สุดของ Tencent คือ WeChat แต่รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากแอปเกม เรียกได้ว่าเป็น “เจ้าแห่งธุรกิจเกมใหญ่ที่สุดในโลก” เลยก็ว่าได้

โดยในปี 2022 / Q3 มีรายได้รวมอยู่ที่ 19,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นกำไรสุทธิ 5,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ


อ้างอิง : https://static.www.tencent.com/uploads/2022/11/16/33aad36dea97848eb75aa988d785e9f8.pdf 

ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ สัญชาติจีน ก่อตั้งในปี 1995 ที่เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ โดยมีคู้ค้าสำคัญเป็นอดีตเจ้าตลาดอย่างยี่ห้อโนเกีย จากนั้นก้าวสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าและกำลังทำการตลาดในไทย โดยร่วมมือกับทางกลุ่มสยามกลการอุตสาหกรรม

สิ่งที่ทำให้แบรนด์ BYD เป็นที่รู้จักในเวทีระดับโลก คือการที่ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ มหาเศรษฐีนักลงทุนระดับตำนาน เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของ BYD ตั้งแต่ปี 2008 ผ่านทาง Berkshire Hathaway

โดยในปี 2022 / Q3 มีรายได้รวมอยู่ที่ 117,081 ล้านหยวน เป็นกำไรสุทธิ5,716 ล้านหยวน


อ้างอิง : https://finance.yahoo.com/quote/1211.HK/financials 

หลักการวิเคราะห์ DR

1. หลักทรัพย์อ้างอิง

ต้องวิเคราะห์หลักทรัพย์อ้างอิงก่อนว่า มีทิศทางการเติบโตที่ดีหรือไม่ มีโอกาสเติบโตมากน้อยเพียงใด ซึ่งดูได้จากทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศนั้น ภาวะอุตสาหกรรม และแนวโน้มการเติบโตของบริษัท รวมถึงปัจจัยที่จะเข้ามากระทบกับหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ DR นั้นอ้างอิงอยู่

2. อัตราแลกเปลี่ยน

แม้ว่าเราจะสามารถซื้อขาย DR ได้ในตลาดหุ้นไทยด้วยเงินสกุลบาท แต่เวลาที่เราซื้อขายนั้นต้องอ้างอิงกับราคาหุ้นหรือราคาสินทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ อ้างอิงกับเงินสกุลนั้น ๆ ที่สินทรัพย์จดทะเบียนอยู่ซึ่งผู้ออก DR จะไม่มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นเมื่อค่าเงินเปลี่ยนแปลงก็ย่อมส่งผลต่อราคาและผลตอบแทนของ DR ได้

3. ตรวจสอบเงื่อนไขของสัญญารับฝาก  

สัญญารับฝาก DR เป็นเอกสารสำคัญที่ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจก่อนลงทุน เพราะจะมีผลกับราคา DR โดยจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทั่วไปที่ใช้บังคับกับ DR ทั้ง สิทธิและประโยชน์ที่ผู้ถือจะได้รับ ค่าใช้จ่ายที่ผู้ออกเรียกเก็บ เงื่อนไขและการรับซื้อคืน เป็นต้น

หลักการวิเคราะห์ DRx

1. ราคาของสินทรัพย์

วิเคราะห์ทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศนั้น ๆ รวมถึงอุตสาหกรรมเด่นในแต่ละช่วงเวลา จากนั้นมาดูว่ากลุ่มอุตสาหกรรมไหนมี Potential ในการเติบโตในอนาคต แล้วจึงมาวิเคราะห์สินทรัพย์อ้างอิงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เราสนใจ โดยเน้นดูผลประกอบการที่ดี มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง และราคาหุ้นอยู่ในระดับที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยดูจาก Price-to-Earnings (P/E) Ratio หรือ Price-to-Book (P/B) Value เป็นต้น

2. อัตราแลกเปลี่ยน

จะเหมือนกับ DR เนื่องจาก DRx ซื้อขายเป็นเงินบาทเช่นกัน แต่ต้องอ้างอิงราคาหุ้นในต่างประเทศกับสกุลเงินนั้น ๆ ดังนั้น ค่าเงินที่เปลี่ยนแปลง ย่อมส่งผลต่อราคา DRx ด้วย โดยหากเงินบาทอ่อนค่าจะส่งผลให้ราคา DRx มีแนวโน้มที่สูงขึ้นในอนาคตได้ ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย ในขณะที่ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า จะส่งผลให้ DRx มีผลตอบแทนในรูปเงินบาทน้อยกว่าหุ้นต่างประเทศ

3. ข้อกำหนดสิทธิ

ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์จากหลักทรัพย์ต่างประเทศตามที่ผู้ออกกำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน หรือข้อกำหนดสิทธิ แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและถูกหักออกจากประโยชน์ที่ผู้ลงทุนจะได้รับ ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาหนังสือชี้ชวนและสอบถามข้อมูลดังกล่าวให้เข้าใจเพื่อประกอบการพิจารณาลงทุน รวมถึงเงื่อนไขวิธีการรับซื้อคืน DRx ของแต่ละผู้ออก ซึ่งอาจแตกต่างกัน

4. ข่าวสารของหลักทรัพย์ต่างประเทศ

สามารถติดตามข่าวสารต่าง ๆ ของหลักทรัพย์ต่างประเทศผ่านทางเว็บไซต์ของผู้ออกแต่ละราย  โดยในเว็บไซต์ผู้ออกบางรายอาจแจ้งราคา iNAV ไว้ด้วย เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถอ้างอิงราคา DRx ที่ซื้อขายเป็นค่าเงินบาทได้ และหากพบว่า DRx ซื้อขายในอัตรา Premium ที่สูงกว่าความเป็นจริง ก็ควรหลีกเลี่ยงหรือชะลอการลงทุนออกไปก่อน

วิธีเปิดบัญชี

DR สามารถซื้อขายได้เลยผ่านบัญชีหุ้นทุกประเภท แต่ DRx จะต้องมีการแจ้งความประสงค์ขอเปิดบัญชี DRx เพิ่มเติม ดังนี้

Step 1 เลือก “My Menu” บน Streaming App และกดเลือกเมนู “DRx”

Step 2 อ่านและกดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน

Step 3 ไปที่หน้า Quote, Place order หรือ Portfolio แล้วกดปุ่ม “Open Account” เพื่อแจ้งความประสงค์ขอเปิดบัญชี DRx

Disclaimer : ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนที่ปรากฏนี้เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลในอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นโดยการอิงกับไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Based) หรือกระแส (Trend) ซึ่งรวบรวมมาจากข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลดังกล่าวรวมทั้งไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน และตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายจากการนำข้อมูลที่ปรากฏนี้ไปใช้ในทุกกรณี