วิธีคัดเลือกหุ้นดีลงทุนนั้นมักแยกออกเป็น 2 สไตล์หลัก ๆ คือ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental) กับ การวิเคราะห์กราฟเทคนิค (Technical) แต่มีอยู่แนวคิดหนึ่งที่นำ 2 หลักการนี้มาผสมผสานกันอย่างลงตัว นั่นคือ "CANSLIM"
CANSLIM เป็นสูตรคัดเลือกหุ้นแนว Hybrid ที่คิดค้นโดย William J. O'Neil สำหรับคัดกรองหุ้นที่มีผลประกอบการดี อัตราการเติบโตต่อเนื่อง และมีการเคลื่อนไหวของราคาแข็งแกร่งกว่าตลาด ประกอบด้วยหลัก 7 ข้อตามตัวอักษร แบ่งเป็นปัจจัยเชิงพื้นฐาน คือ C-A-N และเชิงเทคนิค คือ S-L-I-M ดังนี้
C | Current Earnings
ผลกำไรในไตรมาสล่าสุดเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่จะไม่เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เพราะมี High-Low Season ของธุรกิจที่ต่างกัน ซึ่งหุ้นที่ผ่านเกณฑ์จะต้องมีกำไรต่อหุ้น (Earning per Share) เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20-25% ยิ่งสูงก็ยิ่งดี
A | Annual Earnings
ผลประกอบการประจำปีมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและสม่ำเสมอ โดยจะต้องมีกำไรปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3-5 ปี และควรสอดคล้องกับรายได้ที่มั่นคงด้วย
N | New Products
ควรมองหาบริษัทที่มีปัจจัยการเติบโตใหม่ ๆ เช่น มีแผนออกสินค้าหรือบริการใหม่, เกิด Business Model ใหม่, เปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากทำแล้วดีขึ้น จะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่
S | Supply and Demand
ต้องเป็นหุ้นที่ปริมาณซื้อขาย (Volume) หนาแน่น เพื่อแสดงว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเป็นหุ้นที่มีจำนวนจำกัดด้วย เพื่อจะได้ทำให้ราคาหุ้นสามารถขยับขึ้นได้ง่ายนั่นเอง ซึ่งสามารถสังเกตได้จากสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อ (Free Float) ที่ต่ำ หรือเป็นบริษัทที่มีนโยบายซื้อหุ้นคืน
L l Leader or Laggard
หมายถึง บริษัทนั้นต้องเป็นผู้นำในธุรกิจที่ตัวเองทำ มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 โดยวิธีที่ William J. O’Neil เลือกก็คือ ดูจากค่า Relative Strength ที่สูง หมายถึง เป็นหุ้นที่ราคาขึ้นเร็วกว่าตลาด และราคาปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาด สะท้อนให้เห็นว่าเป็นหุ้นที่นักลงทุนต้องการซื้อมากกว่าต้องการขาย
I | Institutional Support
หุ้นที่ถูกนักลงทุนสถาบันเข้าไปถือครอง เป็นตัวสะท้อนความแข็งแกร่งทางธุรกิจ รวมถึงมีโอกาสที่ราคาจะขยับตัวได้อย่างมีนัยะสำคัญ แต่ก็ไม่ควรมีสัดส่วนของนักลงทุนสถาบันมากจนเกินไป เพราะอาจเสี่ยงต่อแรงขายที่รุนแรงได้เช่นกัน
M | Market Direction
ควรเลือกจังหวะเข้าลงทุนในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้น โดยพิจารณาจากแนวโน้มกราฟแท่งเทียนและเส้นค่าเฉลี่ยของตลาดในช่วงนั้น ๆ เพราะหลายครั้งต่อให้หุ้นดีแคไหน แต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ก็ยากที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดี
วิธีเลือกหุ้นด้วยกลยุทธ์ CANSLIM
เราสามารถใช้เครื่องมือการลงทุน SETSMART ช่วยคัดกรองหุ้นที่ตรงหลักเกณฑ์ลงทุนแบบ CANSLIM ได้ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลามานั่งวิเคราะห์หุ้นในตลาดที่มีเป็นร้อย ๆ เพียงใช้ฟังก์ชัน “Stock Screening” แล้วใส่เงื่อนไขของหุ้นที่ต้องการได้เลย
ตัวอย่างเช่น ลองใส่เงื่อนไขตามแนวคิด CANSLIM ดังนี้ กำไรต่อหุ้น (EPS) ไตรมาสล่าสุด เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% YoY, กำไรสุทธิ เติบโตต่อเนื่องตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา, ROE มากกว่า 15% ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา, Free Float น้อยกว่า 60%, เป็นหุ้นในดัชนี SET100
จะพบรายชื่อหุ้นที่ผ่านหลักเกณฑ์ CANSLIM ด้วยกัน 5 หลักทรัพย์ ดังนี้
นักลงทุนสามารถนำฟังก์ชัน Stock Screening บน SETSMART ไปปรับใช้กับกลยุทธ์อื่น ๆ เพื่อการคัดกรองหุ้นลงทุนกันได้เลย โดยตอนนี้สามารถสมัครเป็นสมาชิก SETSMART ได้ในราคา 250 บาทต่อเดือน >> คลิก
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน