เสน่ห์ของการลงทุนใน Single Stock Futures

โดย ฐิติเมธ โภคชัย ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
3 Min Read
29 กันยายน 2564
2.939k views
Inv_เสน่ห์ของการลงทุนใน Single Stock Futures_Thumbnail
Highlights

Single Stock Futures เป็นอีกหนึ่งสินค้าในตลาดอนุพันธ์ที่มีเสน่ห์และน่าสนใจเข้ามาซื้อขาย สามารถใช้เป็นทางเลือกในการลงทุนแทนการลงทุนในหุ้นโดยตรงได้ แต่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า และมีความยืดหยุ่นมากกว่า เพราะสามารถใช้สร้างผลกำไรจากส่วนต่างราคาได้ในทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าขาขึ้นหรือขาลง รวมทั้งยังสามารถใช้บริหารความเสี่ยงให้กับพอร์ตลงทุนได้อีกด้วย

หากผู้ลงทุนเริ่มต้นชีวิตการลงทุน ด้วยการลงทุนในหุ้นรายตัวมาก่อน การจะเข้ามาซื้อขายสินค้าในตลาดอนุพันธ์ โดยเฉพาะ Single Stock Futures นั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก หากต้องการต่อยอดการซื้อขายหรือเข้ามาใช้ประโยชน์ เพราะ Single Stock Futures เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาหุ้นเป็นรายตัว พูดง่าย ๆ ว่า ราคาของ Single Stock Futures จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับหุ้นที่อ้างอิง ส่งผลให้ผู้ลงทุนได้รับผลกำไรขาดทุนเช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นนั้น ๆ แต่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าเพราะจ่ายแค่เงินประกันซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10-15% ของมูลค่าสัญญา ทั้งนี้ การซื้อขาย Single Stock Futures 1 สัญญา จะเทียบเท่ากับการลงทุนในหุ้น 1,000 หุ้น

 

ดังนั้น การที่ผู้ลงทุนใช้ Single Stock Futures ที่มีสินค้าอ้างอิงเป็นหุ้นตัวเดียวกันกับหุ้นที่อยู่ในพอร์ต ก็จะช่วยให้การบริหารความเสี่ยงหรือเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และหากมองถึงเสน่ห์หรือจุดเด่นของ Single Stock Futures ก็มี 5 เรื่องที่น่าสนใจ ดังนี้

 

1. ใช้ป้องกันความเสี่ยงได้

ผู้ลงทุนสามารถใช้ Single Stock Futures เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถือครองหุ้นนั้นได้โดยตรง เช่น หากถือหุ้น AAV, MINT และ SCC อยู่ และประเมินว่าผลประกอบการของหุ้นเหล่านี้อาจยังไม่ฟื้นตัว ราคาหุ้นอาจจะปรับตัวลงจากปัจจุบัน ก็สามารถไปเปิดสถานะขาย (Short) ในสัญญา AAV Futures, MINT Futures และ SCC Futures เอาไว้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้พอร์ตลงทุนไม่ขาดทุนยามราคาหุ้นปรับตัวลดลง

 

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ Single Stock Futures เพิ่มผลตอบแทนฝั่งขาขึ้นได้อีกด้วย เช่น หากประเมินว่า หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คือ หุ้น AMATA, WHA, CK, STEC และ CHG โดยคาดว่าราคาหุ้นเหล่านี้จะปรับตัวขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า แต่ตอนนี้ยังไม่มีเงินลงทุนที่จะนำไปซื้อหุ้นเหล่านี้ได้ ก็สามารถล็อคราคาหุ้น ผ่านการเปิดสถานะซื้อ (Long) ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีหุ้นเหล่านี้เป็นสินค้าอ้างอิงไว้ก่อน ซึ่งจะใช้เงินลงทุนเพียงแค่หลักประกันขั้นต้นประมาณ 10% ของเงินลงทุนในการซื้อหุ้นจริง หากหุ้นเหล่านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างที่คาด ก็จะได้กำไรจาก Single Stock Futures ที่เคยซื้อเอาไว้

 

2. หุ้นขึ้นหุ้นลงก็ทำกำไรได้
จุดเด่นที่สุดสำหรับการซื้อขาย Single Stock Futures หนีไม่พ้นความสามารถในการทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง อย่างไรก็ตาม การที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ทุกสถานการณ์นั้น ต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ศึกษากลไกการซื้อขายและเรียนรู้อย่างถี่ถ้วน รวมถึงติดตามสภาวะการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญต้องเข้าใจสไตล์การลงทุนของตัวเอง เช่น หากผู้ลงทุนจะใช้เพื่อการเก็งกำไรควรเลือกหุ้นที่วิเคราะห์แล้วว่าราคาหุ้นอ้างอิงมีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลง แล้วใช้ Single Stock Futures เป็นเครื่องมือในการเก็งกำไรตามทิศทางที่คาดการณ์ไว้ โดยเน้นซื้อขายตัวที่มีสภาพคล่องสูงไว้ก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง

 

หากกรณีที่ตลาดอยู่ในช่วง Sideway ควรเลือกหุ้นอ้างอิงที่มีความผันผวนสูงไว้ก่อน เพราะถ้าตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ถึงแม้เลือกหุ้นอ้างอิงที่มี Leverage (อัตราทด) สูงก็อาจเปล่าประโยชน์ การเลือกหุ้นอ้างอิงที่มีความผันผวนสูงหรือแกว่งตัวแรงกว่าตลาดมาเก็งกำไรระยะสั้น อาจจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

 

3. อำนาจแห่ง Leverage
Single Stock Futures ใช้เงินลงทุนน้อย เพียงแค่วางเงินหลักประกันขั้นต้น (Initial Margin) ประมาณ 10 - 15% ของมูลค่าสัญญาเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับการลงทุนในหุ้นโดยตรง หากซื้อหุ้นมูลค่า 100 บาท ก็ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน 100 บาท ดังนั้น การซื้อขาย Single Stock Futures ช่วยทำให้ประหยัดเงินลงทุนไปได้มาก และด้วยเงินลงทุนที่ใช้น้อยกว่านี้ ทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับอัตราผลตอบแทนสูงกว่าการซื้อหุ้น

 

4. Commission ไม่สูง
หากเปรียบเทียบกับการซื้อขายหุ้น ที่ซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน ผู้ลงทุนต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้นที่ 0.15 - 0.25% แต่ค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยใน Single Stock Futures จะอยู่ที่ประมาณ 0.10% ของมูลค่าสัญญาเท่านั้น

 

5. หุ้นอ้างอิงมีคุณสมบัติเทียบเท่าหุ้นในดัชนี SET100
เนื่องจากหุ้นอ้างอิงของ Single Stock Futures ตามหลักการในปัจจุบัน พิจารณาคัดเลือกมาจากหุ้นในดัชนี SET100 และมี Market Capitalization ตั้งแต่ 10,000 ล้านบาทขึ้นไป นั่นหมายความว่า ผู้ลงทุนที่ซื้อขาย Single Stock Futures จะมีโอกาสลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพและมีสภาพคล่องสูง ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุน รวมถึงช่วยเพิ่มเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงและทำกำไรที่มีประสิทธิภาพให้กับผู้ลงทุนอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ Single Stock Futures จะมีเสน่ห์ที่หลากหลาย แต่ก็มีความเสี่ยงและข้อควรระวังในการซื้อขายด้วย เช่น อัตราผลตอบแทนทั้งด้านกำไรและขาดทุนที่สูงกว่าการลงทุนในหุ้นโดยตรง การไม่สร้างสถานะซื้อขายมากเกินไปจนอาจทำให้เกิดความเสี่ยงหรือมีเงินประกันมาวางไม่เพียงพอในช่วงที่ตลาดผันผวนตรงข้ามกับที่คาดการณ์ไว้ หรือผู้ลงทุนที่ถือสัญญา Single Stock Futures จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนกับผู้ถือหุ้น อาทิ เงินปันผล เป็นต้น ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อขายควรตรวจสอบความพร้อมและความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของตัวเอง ทำความเข้าใจลักษณะสัญญา ลักษณะสินค้าอ้างอิง วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินทิศทางราคาสินค้าอ้างอิง และเลือกกลยุทธ์ซื้อขายให้เหมาะสมกับตัวเอง รวมถึงสภาวะตลาดด้วย

 

สำหรับใครที่สนใจ เรียนรู้ลักษณะสัญญา สินค้าอ้างอิง ผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงกลยุทธ์การซื้อขาย SET50 Futures และ Stock Futures เพื่อทำกำไรและป้องกันความเสี่ยงให้กับพอร์ตลงทุนในแต่ละสภาวะตลาด สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “รอบรู้ลงทุน SET50 & Stock Futures” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่

แท็กที่เกี่ยวข้อง: