CF กันรัว ๆ ซื้อของออนไลน์ หุ้นแบบไหนได้ประโยชน์

โดย SET
5 Min Read
24 มิถุนายน 2564
9.412k views
SET-investHow_Thumbnail_CF-กันรัว-final-1200x660px
Highlights

เคยสังเกตไหมว่า? เวลาที่พวกเราเพลิดเพลินกับการช้อปออนไลน์ กด CF กันรัว ๆ เราเจอหุ้นตัวไหนอยู่รอบตัวบ้าง วันนี้เลยอยากจะพาสำรวจกันว่าในแต่ละขั้นตอนระหว่างการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์นั้น มีหุ้นกลุ่มไหนบ้างนะที่ซ่อนอยู่โดยที่เราอาจไม่รู้เคยตัวมาก่อน

ทุกวันนี้เมื่ออยากได้อะไรก็สามารถซื้อได้บนอินเทอร์เน็ตหมดแล้ว เพียงแค่หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา กดสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ช้อปออนไลน์ปั๊ป โอนเงินปุ๊บ นั่งรอแค่ไม่กี่วันของที่สั่งก็จัดส่งให้เลยถึงหน้าบ้าน เรียกว่าอยากจะซื้ออะไรก็ง่ายแค่ปลายนิ้ว

แต่เคยสังเกตไหมว่า? เวลาที่พวกเราเพลิดเพลินกับการช้อปออนไลน์ กด CF กันรัว ๆ เราเจอหุ้นตัวไหนอยู่รอบตัวบ้าง วันนี้เลยอยากจะพาสำรวจกันว่าในแต่ละขั้นตอนระหว่างการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์นั้น มีหุ้นกลุ่มไหนบ้างนะที่ซ่อนอยู่โดยที่เราอาจไม่รู้เคยตัวมาก่อน

โดยบทความนี้ตั้งใจจะยกตัวอย่างไอเดียการมองหาหุ้นในชีวิตประจำวันของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมเท่านั้น ซึ่งใครเห็นหุ้นตัวไหนที่นอกเหนือจากนี้ สามารถนำมาแชร์กันได้เลย

Infographic - CF กันรัวๆ หุ้นไหนได้ประโยชน์

ว่าแล้วก่อนจะเริ่มช้อปออนไลน์ก็ต้อง หยิบมือถือเข้าอินเทอร์เน็ต คุณจะเจอหุ้นในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ที่เป็นผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเป็นกลุ่มแรก  ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ADVANC ของเครือข่ายเอไอเอส, หุ้น TRUE ของเครือข่ายทรูมูฟ เอช, หุ้น DTAC ของเครือข่ายดีแทค รวมถึงหุ้น JAS ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต 3BB

  • ต้องรู้อะไรก่อนลงทุนหุ้นสื่อสาร
  1. การประมูลใบอนุญาต ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโต และพัฒนาโครงข่าย 5G ที่เป็นเทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคต
  2. การบริหารต้นทุนทางการเงิน เพราะเป็นธุรกิจที่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงอยู่เรื่อย ๆ
  3. รักษาฐานลูกค้าเก่าและเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ด้วยธุรกิจที่มีผู้เล่นน้อยราย แต่มูลค่าการตลาดที่สูง ภาวะการแข่งขันในกลุ่มจึงค่อนข้างรุนแรง และเห็นการเปลี่ยนแปลงกันอยู่ตลอด

เลือกช้อปที่ร้านค้าปลีกออนไลน์ เดี๋ยวนี้เราสามารถเข้าไปไถนิ้วรัว ๆ หาของที่ต้องการได้เลยผ่านมาร์เก็ตเพลซยอดฮิตอย่าง Shopee หรือ Lazada ส่วนถ้าใครเข้าไปช้อปผ่านหน้าร้านค้าโดยตรง แน่นอนว่าต้องเจอหุ้นที่ทำธุรกิจค้าปลีกต่าง ๆ ในหมวดอุตสาหกรรมพาณิชย์ (COMM)

ใครกำลังมองหาสินค้าแฟชั่นจำพวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ก็ต้องเจอหุ้น CRC ที่มีแบรนด์อย่าง Central Online, Supersport Online, Robinson Online หรือถ้าเป็นสายไอที สมาร์ทโฟน โน๊ตบุ๊ค ก็ต้องหุ้น COM7 ที่มีช้อป BNN.in.th หุ้น JMART ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์ Jaymart Store รวมถึงหุ้น ITCITY ซึ่งมีเว็บไซต์หลักอย่าง itcityonline

แต่ถ้าช้อปเพลินจนเสียงท้องเริ่มร้อง เรายังสามารถแวะร้านสะดวกซื้อที่คุ้นเคยแบบออนไลน์อย่าง 7-11 ของหุ้น CPALL ได้อีกด้วย เพราะเขามี 7-Eleven Delivery บริการจัดส่งสินค้าฟรีถึงบ้าน

  • ต้องรู้อะไรก่อนหุ้นค้าปลีก
  1. การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ยิ่งมี SSSG สูง แปลว่าบริษัทมีความสามารถในการเพิ่มยอดขาย โดยที่ไม่ต้องพึ่งต้นทุนเพื่อขยายสาขาใหม่
  2. ช่องทางการจัดจำหน่าย ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จึงเห็นว่าหลายบริษัทหันมาใช้กลยุทธ์ Omni Channel ขยายช่องทางขายให้ครอบคลุมทุกช่องทาง และพยายามเพิ่มสัดส่วนรายได้จากออนไลน์ให้สูงขึ้น
  3. มาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ ธุรกิจค้าปลีกจะค่อนข้างโตตามการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน หากเศรษฐกิจฝืดเคือง ผู้คนต้องประหยัดเงิน หุ้นกลุ่มนี้มักได้รับผลกระทบไปด้วย

           

เมื่อเลือกสินค้าที่ถูกใจกันเรียบร้อยก็มาสู่เวลาของการ ชำระเงินออนไลน์ ซึ่งก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน เพราะจะเลือกให้ตัดบัตรเครดิตไปเลย หรือใช้บริการโอนเงินออนไลน์ของธนาคารต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน

ขั้นตอนนี้เราจะมีโอกาสพบหุ้นในหมวดอุตสาหกรรมธนาคาร (BANK) มากมายหลายตัว อาทิ หุ้น BAY ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, หุ้น BBL ธนาคารกรุงเทพ, หุ้น KBANK ธนาคารกสิกรไทย, หุ้น KTB ธนาคารกรุงไทย, หุ้น SCB ธนาคารไทยพาณิชย์, หุ้น TTB ธนาคารทหารไทยธนชาต เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นหมวดอุตสาหกรรมเงินทุนและหลักทรัพย์ (FIN) ที่เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิต อย่างเช่นหุ้น KTC เจ้าของบัตรเครดิตเคทีซี และหุ้น AEONT เจ้าของบัตรเครดิตอิออน

  • ต้องรู้อะไรก่อนลงทุนหุ้นธนาคารและการเงิน
  1. อัตราการเติบโตของสินเชื่อ ถือเป็นรายได้หลักของธนาคารและธุรกิจสินเชื่อ โดยนำเงินจากคนที่เหลือออม มาปล่อยกู้ให้คนที่ต้องการใช้เงินทุน ซึ่งธนาคารจะได้กำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM)
  2. รายได้จากค่าธรรมเนียม คือ รายได้อีกส่วนที่มาจากการบริการต่าง ๆ เช่น บัตรเครดิต ประกันชีวิต กองทุนรวม เป็นต้น
  3. จำนวนหนี้เสีย (NPL) หากมี NPL ในระดับที่สูงเกินไป จะสะท้อนถึงความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

 

ในระหว่างที่ รอรับสินค้าจากบริการเดลิเวอรี่ รู้ไหมว่าในตลาดหุ้นไทยนั้นมีบริษัทที่ให้บริการจัดส่งสินค้าอีกด้วย ซึ่งจัดอยู่ในหมวดอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ (TRANS) โดยมีแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นคือ Kerry Express ของหุ้น KEX รวมถึงบริการ JWD Express ของหุ้น JWD นั่นเอง

  • ต้องรู้อะไรก่อนลงทุนหุ้นขนส่ง
  1. การเติบโตของตลาด E-Commerce เป็นที่ทราบกันว่าการเติบโตของธุรกิจขนส่ง หัวใจหลักมาจากยอดค้าปลีกออนไลน์ในไทย
  2. การบริหารต้นทุนจัดส่ง ด้วยเป็นธุรกิจที่มีแข่งขันดุเดือนทั้งคุณภาพและราคา ดังนั้น ใครที่สามารถบริหารต้นทุนต่อหน่วยได้ดีกว่า ก็ยิ่งได้เปรียบในธุรกิจนี้

 

สุดท้ายเมื่อสินค้าที่เรากด CF เดินทางมาถึงหน้าบ้าน ก่อนแกะกล่องตรวจเช็กของที่สั่ง กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ห่อสินค้า ก็ยังมีหุ้นซ่อนอยู่ในนั้น คือ หุ้นในหมวดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ (PKG) เช่น หุ้น SCGP ซึ่งเป็นผู้ผลิตกล่อง SCG Packaging รวมทั้งผู้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ขายส่งอื่น ๆ อาทิ หุ้น PTL และหุ้น SFLEX เป็นต้น

  • ต้องรู้อะไรก่อนลงทุนหุ้นบรรจุภัณฑ์
  1. แนวโน้มการเติบโตของ Mega Trend ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะได้รับประโยชน์จากเทรนด์การเปลี่ยนแปลงต่างๆ อาทิ E-commerce, Food Delivery และ Healthcare
  2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันผู้บริโภคใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การหันมาใช้วัตถุดิบในการผลิตที่สามารถรีไซเคิลได้ ก็จะเพิ่มโอกาสการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

 

เห็นไหมว่าเพียงแค่เรากด CF สั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพียงแป๊ป ๆ หากลองสังเกตให้ดีเราเจอหุ้นมากมายอยู่รอบตัวในทุก ๆ ขั้นตอนเลย และสำหรับใครที่เริ่มรู้จักหุ้นใกล้ตัวที่ได้ประโยชน์จากการช้อปออนไลน์แล้ว เรายังสามารถใช้บริการ SETSMART ช่วยวิเคราะห์หุ้นในแต่ละอุตสาหกรรม เช่น เจาะลึกการเติบโตของรายได้ อัตราส่วนทางการเงินต่าง ซึ่งสามารถสมัครใช้บริการได้เพียงราคา 250 บาทต่อเดือน >> คลิกที่นี่

 

หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน

23
แท็กที่เกี่ยวข้อง: