ลงทุนอย่างไร เมื่อตลาดหุ้นไม่เป็นใจ

โดย เจษฎา เจริญสันติพงศ์ Assistant Manager Branch Banking Client Marketing บลจ.ธนชาต
2 Min Read
10 พฤศจิกายน 2565
1.507k views
Inv_ลงทุนอย่างไร เมื่อตลาดหุ้นไม่เป็นใจ_Thumbanil
Highlights

ท่ามกลางวิกฤติ ย่อมมีโอกาสเสมอ หมายความว่า นักลงทุนไม่จำเป็นต้องขายหุ้นทิ้ง หรือออกจากตลาด ตรงกันข้ามกลับเป็นโอกาส เพราะยังมีหลากหลายทางเลือกที่อาจทำให้นักลงทุนสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ เพียงเลือกกลยุทธ์ลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองและสถานการณ์

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงถ้วนหน้า ทำให้พอร์ตลงทุนโดยรวมกำไรเริ่มลดลงหรืออาจถึงขั้นขาดทุนไปแล้ว ผลที่ตามมา คือ นักลงทุนเริ่มกังวลกับความไม่แน่นอนในวันข้างหน้าก็เริ่มขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งการตัดสินใจแบบนี้ไม่มีถูกหรือผิด แต่อาจมีคำถามตามมาว่าหากไม่ขายหุ้น ยังมีทางเลือกอื่น ๆ หรือไม่ เพื่อรับมือกับการลงทุนในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

 

  • อยู่เฉย ๆ ในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับฐาน การตัดสินใจไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้หมายความว่ายอมยกธงขาวด้วยการปล่อยให้เงินลงทุนลดลงไปเรื่อย ๆ แต่การอยู่เฉย ๆ คือ การที่มั่นใจในกลยุทธ์ลงทุนและหุ้นในพอร์ตลงทุนมีคุณภาพ เช่น เลือกลงทุนในธุรกิจที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องปรับพอร์ตลงทุน

 

  • ถึงเวลาสะสมหุ้น หากประเมินว่าตลาดหุ้นได้ปรับตัวลดลงถึงจุดต่ำสุดแล้ว ก็ควรเริ่มเข้าซื้อหุ้น โดยเน้นหุ้นที่มีคุณภาพและมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง หรือหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากภาวะอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อเป็นขาขึ้น

 

  • DCA สม่ำเสมอ ไม่มีใครสามารถคาดเดาตลาดหุ้นได้แม่นยำตลอดเวลา ดังนั้น หากไม่สามารถคาดเดาหรือจับจังหวะตลาดหุ้นได้แต่ต้องการลงทุนในระยะยาว วิธีการลงทุนแบบสม่ำเสมอ (DCA) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นการกระจายซื้อหุ้น ด้วยเงินจำนวนเท่า ๆ กันเป็นงวด ๆ เช่น รายเดือน รายสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้ได้ราคาต้นทุนแบบถัวเฉลี่ย จึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้กำไรสูงสุด แต่ก็ไม่มีทางขาดทุนแบบกู่ไม่กลับ ที่สำคัญยังช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนมาก อย่างหุ้นได้เป็นอย่างดี

 

  • เฟ้นหาหุ้นปันผลที่ดี หุ้นที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ มักเป็นหุ้นที่มีการดำเนินธุรกิจและขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ โดยสังเกตได้จากยอดขายและกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะตกต่ำ หรือมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่น ปัญหาทางการเมือง วิกฤติเศรษฐกิจ โรคระบาด ธุรกิจก็ยังสามารถขยายตัวต่อไปได้ อีกทั้งบริษัทเหล่านี้จะมีกระแสเงินสด (Cash Flow) จากการดำเนินงานเป็นบวก หมายความว่า บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินสูง ดังนั้น หากนักลงทุนค้นเจอบริษัทประเภทนี้ อย่าปล่อยให้หลุดมือ เพราะนั่นคือขุมทรัพย์ที่จะสร้างผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลให้นักลงทุนในระยะยาว

 

  • ลงทุนตราสารหนี้ ตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดี มีความเสี่ยงต่ำ ทั้งพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน เป็นสินทรัพย์ที่ลงทุนได้ และหากเชื่อว่าตราสารหนี้ที่ลงทุนมีความปลอดภัยในระยะยาว เพียงแต่วันนี้มีความผันผวน เช่น ราคาปรับลดลง ย่อมเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุน โดยตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ดูแลเงินต้นของนักลงทุน ถือเป็นตัวช่วยประคองพอร์ตลงทุนโดยรวมในช่วงตลาดผันผวน ดังนั้น จึงควรกระจายความเสี่ยงในการลงทุนด้วยการจัดสัดส่วนเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่แต่ละบุคคลสามารถยอมรับได้

 

ในช่วงตลาดผันผวน นักลงทุนสามารถประสบความสำเร็จจากการลงทุนได้ เพียงเริ่มต้นจากการเรียนรู้ ติดตามข่าวสารตลอดเวลา หากลยุทธ์และเครื่องมือในการวิเคราะห์ แล้วนำมาใช้เพื่อตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ

 

หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่สนใจ เรียนรู้หลักการวิเคราะห์ผลตอบแทนของพอร์ตลงทุน และแนวทางการปรับพอร์ตให้เหมาะกับตนเองและสถานการณ์ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “Portfolio Rebalancing” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่

แท็กที่เกี่ยวข้อง: