USD Futures อีกทางเลือกเพื่อเก็งกำไร ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน

ปี 2565 เป็นอีกหนึ่งปีที่กระแสความผันผวนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ขึ้นลงอย่างรุนแรง ด้วยเหตุจากธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลอื่น ๆ ทั่วโลก

สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้กระแสการเก็งกำไรค่าเงินถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง และหนึ่งในช่องทางการเก็งกำไรค่าเงินที่ได้รับความนิยม คือ การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือเรียกว่า Forex (Foreign Exchange) ด้วยลักษณะที่มีความเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็ว มีสภาพคล่องสูง ทั้งยังสามารถใช้อัตราทด (Leverage) ในระดับที่สูงมาก ทำให้สร้างกำไรได้สูงด้วยเงินลงทุนต่ำ

จึงกล่าวได้ว่า การเก็งกำไรใน Forex เหมาะกับนักเทรดขาซิ่งที่ชอบความเสี่ยงสูง เน้นทำกำไรในช่วงเวลาสั้น ๆ ตัดสินใจซื้อขายอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี การเทรด Forex ในปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายรองรับในประเทศไทย และนำไปสู่การชักชวนลงทุนในรูปแบบที่เสนอผลตอบแทนที่สูงมาก จนนำไปสู่กระบวนการแชร์ลูกโซ่ซึ่งผิดกฎหมายอย่างที่เป็นข่าวในปัจจุบัน

สำหรับเครื่องมือทางการเงินที่ถูกกฎหมายและใช้ในการป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวกับค่าเงินที่นิยมและคุ้นเคยกันมากที่สุดในหมู่ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก มักจะเป็นการซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward) กับธนาคารพาณิชย์ แต่อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องมูลค่าการทำธุรกรรมที่มักมีขนาดใหญ่และด้านสภาพคล่องที่มีจำกัด

ด้วยเหตุนี้ จึงมีอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการขนาดย่อยที่ต้องการป้องกันความเสี่ยง หรือแม้แต่นักลงทุนรายย่อยที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศรวมถึงต้องการเก็งกำไรในค่าเงิน คือ การซื้อขายสัญญา USD Futures ที่จดทะเบียนผ่านบริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือเรียกกันโดยย่อว่า TFEX

USD Futures เป็นเครื่องมือทางการเงินอย่างหนึ่งที่สามารถใช้ป้องกันความเสี่ยงหรือใช้เก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนได้ โดยเป็นการทำสัญญาซื้อหรือขายเงินดอลลาร์กันในอนาคตตามราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกัน คล้ายกับการทำสัญญา Forward แต่การซื้อขายจะทำผ่าน TFEX แบบเรียลไทม์ แทนที่จะเป็นการซื้อขายกับธนาคารพาณิชย์เหมือนสัญญา Forward ทั่วไป

โดยสัญญา USD Futures มีลักษณะของสัญญาที่เป็นมาตรฐาน และมีการกำหนดระยะเวลาส่งมอบตามที่ระบุไว้ในสัญญา ซึ่งแตกต่างจากสัญญา Forward ที่ลูกค้าสามารถระบุจำนวนเงินและวันส่งมอบตามที่ต้องการได้ รวมทั้งยังสามารถใช้อัตราทดและสามารถเก็งกำไรทิศทางได้ทั้งช่วงค่าเงินบาทแข็งค่าหรืออ่อนค่าคล้ายกับการซื้อขายบนกระดาน Forex อีกด้วย

การเก็งกำไรและป้องกันความเสี่ยงใน USD Futures

ผู้ที่ต้องการเก็งกำไรในค่าเงิน หรือผู้ที่มีความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน เช่น ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก และนักลงทุนในต่างประเทศ จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน จึงสามารถเลือกใช้ USD Futures ในการเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงได้ โดยขนาดสัญญาของ USD Futures หนึ่งสัญญา จะมีมูลค่าเท่ากับ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (USD)

ตัวอย่างการเก็งกำไร

หากนักลงทุนคาดว่าเงินบาทจะอ่อนค่าจาก 36 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 37 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ

• นักลงทุนสามารถเปิดสถานะซื้อ หรือ Long USD Futures ที่ราคา 36 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ และรอปิดทำกำไรที่ราคา 37 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 1 สัญญา โดยจะได้กำไรทั้งหมด = (37-36) x 1,000 USD x 1 สัญญา เท่ากับได้กำไร 1,000 บาท (ยังไม่รวมค่าธรรมเนียม)

ตัวอย่างการป้องกันความเสี่ยง

นักลงทุนนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศจำนวน 100,000 USD (สมมติเงินบาทอยู่ที่ 36.5 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ)

• นักลงทุนสามารถเปิดสถานะ Short USD Futures ที่ราคา 36.5 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 100,000 USD / 1,000 USD (มูลค่าสัญญา) = 100 สัญญา เพื่อครอบคลุมความเสี่ยงเงินลงทุนในต่างประเทศทั้งหมด
• หากเงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็น 36 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนจะแลกเงินบาทกลับไทยได้ลดลง แต่จะได้กำไรจากการปิดสถานะ Short USD Futures จำนวน (36.5 – 36) x 1,000 USD x 100 สัญญา เท่ากับได้กำไรจาก USD Futures จำนวน 50,000 บาทมาชดเชย (ยังไม่รวมค่าธรรมเนียม) เปรียบเสมือนล็อคอัตราแลกเปลี่ยนที่ 36.5 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ

จุดเด่นของ USD Futures

1. ไม่จำเป็นต้องมีสินเชื่อกับธนาคารก็สามารถทำการเปิดบัญชีได้ แต่ต้องมีการเปิดบัญชีซื้อขายสัญญาล่วงหน้ากับนายหน้าซื้อขายสัญญาอนุพันธ์ล่วงหน้าหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาต
2. มูลค่าของสัญญามีขนาดเพียง 1,000 USD และสามารถวางเงินหลักประกันเริ่มต้นเพียง 2% ของมูลค่าสัญญา จึงทำให้ใช้เงินลงทุนน้อย และสามารถใช้อัตราทดได้
3. ลักษณะของสัญญา Futures สามารถทำกำไรได้ทั้งเงินบาทแข็งค่าหรืออ่อนค่า จึงสามารถใช้ในการเก็งกำไรค่าเงินหรือป้องกันความเสี่ยงได้
4. มีผู้ดูแลเรื่องสภาพคล่อง (Market Maker) ในตลาด ทำให้มีสภาพคล่องในกระดานซื้อขายที่เพียงพอ และราคาเคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพ
5. สามารถซื้อขาย USD Futures ได้แบบเรียลไทม์ ผ่านแอปพลิเคชัน Streaming โดยตลาด TFEX เปิดการซื้อขายถึงช่วงกลางคืน (Night Session) จนถึงเวลา 23:55 น. ครอบคลุมเวลาส่วนใหญ่ในการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของต่างประเทศ โดยเฉพาะทางฝั่งสหรัฐอเมริกา ที่มักจะประกาศในช่วงเวลากลางคืน
6. มีระบบการซื้อขายที่เป็นมาตรฐานสากล โปร่งใส และน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังมีการกำหนดเกณฑ์ Circuit Breaker และ Daily Price Limit เพื่อไม่ให้ราคามีความผันผวนและมีความเสี่ยงสูงจนเกินไป เช่น เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ราคาของ USD Futures ลดลง 2% จากราคาที่ใช้ชำระราคาและส่งมอบล่าสุด จึงมีการหยุดพักการซื้อขายเป็นเวลา 30 นาที

นอกจากนี้ TFEX ยังมีแผนการออกสินค้า Futures ที่เกี่ยวกับค่าเงินอีก 2 สกุลใหม่ คือ EUR/USD, USD/JPY ในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมของปี 2565 และ EUR/THB, JPY/THB ในปี 2566 เพื่อตอบรับกระแสค่าเงินยูโรและค่าเงินเยนที่มีความผันผวนสูงในปีนี้ และเพื่อให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยสามารถใช้เป็นตัวเลือกเพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือแม้แต่เก็งกำไรได้สะดวกขึ้น

นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจหรือนักลงทุนยังสามารถติดต่อโบรกเกอร์ไทยได้หลายแห่ง หากต้องการทำธุรกรรม USD Futures แบบล็อตใหญ่ในรูปแบบ Block Trade ผ่านบัญชีซื้อขายล่วงหน้า เนื่องจากมีธนาคารขนาดใหญ่เข้ามาทำหน้าที่ผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือสามารถทำธุรกรรมผ่านกระดาน TFEX ด้วยตัวเอง ก็สามารถทำได้สะดวกขึ้นเพราะมีสภาพคล่องสูงขึ้นมากในปัจจุบันจากความนิยมใน Currency Futures ของไทยที่เพิ่มมากขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ USD Futures ได้ที่ >> คลิกที่นี่

หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน

นักลงทุนมือใหม่และผู้ที่สนใจ เรียนรู้พื้นฐานการลงทุนในอนุพันธ์ประเภทต่าง ๆ ทั้งฟิวเจอร์ส และออปชัน ตลอดจนกลไกการซื้อขายของตลาดอนุพันธ์ การวางหลักประกัน กลยุทธ์การลงทุน และข้อควรระวังของการลงทุนในอนุพันธ์ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ e-Learning หลักสูตร “ลงทุนอนุพันธ์ฉบับมือใหม่” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่