ศิลปินที่พลิกข้อจำกัด ก้าวข้ามความไม่แน่นอน สู่การลงทุน Right Now

โดย SET
5 Min Read
31 สิงหาคม 2565
2.536k views
Thumb article P Ohm Final-01
Highlights

“ถ้าพูดถึงการออม เขาบอกสิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลกคือ ดอกเบี้ยทบต้น ดอกเบี้ยทบต้นเริ่มต้นทำงานเมื่อไร กว่าจะเห็นผลเป็นกอบเป็นกำจริง ๆ มันเกิน 10 ปี แล้วทั้งนั้น ถ้าคุณไม่เริ่มตอนนี้ แล้วคุณจะรอตอนไหนให้มันครบ 10 ปี เริ่มอีก 5 ปี 10 ปี ก็คือ 15 ปีข้างหน้า ถ้าจะเริ่มอีก 20 ปี มันก็กลายเป็น 30 ปีข้างหน้า มันก็ต้อง Now ปะ”

หากพูดถึงศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 10 ปี อีกทั้งยังผันตัวเองจากนักร้องนำ สู่การเป็นผู้บริหารค่ายเพลงสุดคูลอย่าง Gene Lab ที่มีวงดนตรีชื่อดังอย่าง Tilly Birds และ Three Man Down อยู่ด้วยแล้วนั้น หลายคนต้องนึกถึง

คุณโอม ปัณฑพล ประสารราชกิจ หรือ โอม Cocktail อย่างแน่นอน

แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จของชายคนนี้ จะมาจากข้อจำกัดด้านเวลา ที่ทำให้เขาต้องศึกษา และเรียนรู้ เพื่อทำความเข้าใจกับอาชีพ รวมถึงบทบาทอื่น ๆ ที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะอยู่บนเวทีหรือหลังฉากก็ตาม 

วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักอีกมุมมองหนึ่งของ คุณ
โอม Cocktail ศิลปินที่เปลี่ยนข้อจำกัดเป็นแรงผลักดันในการใช้ชีวิตและการลงทุน

ศิลปินมีข้อจำกัดหรือมีวันหมดอายุบ้างไหม ? 
“ตัวเลขที่ผมเคยเอาค่าเฉลี่ยมาเทียบ พีคือ 7 ปี คนที่ข้ามได้ถึงทศวรรษ คือคนที่สามารถ Ship วงไปอีกสถานะได้ด้วย เราไม่ได้กำหนดสิ่งเหล่านี แต่ตัวที่กำหนดคือ Demand ของตลาดที่กำหนด

เพราะเฉลี่ยแล้ว คนที่ฟังเพลง หรือให้น้ำหนักกับสิ่งบันเทิงเหล่านี้ อยู่ที่อายุประมาณ 13 ปี จนถึง 21 ปี พอหลังจากนั้นเขาจะเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน และวัยมีครอบครัว ซึ่งการรับรู้เรื่องเกี่ยวกับสิ่งบันเทิงค่อนข้างจะหยุดนิ่งแล้ว

งานที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นเกม ภาพยนตร์ เพลง หรืออะไรก็ตามที่เป็นสิ่งบันเทิง มันเป็นสิ่งไม่คงที่ มีมาแล้วมีไป มาแล้วจากไปในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นเอง”

แต่วง Cocktail ก็สามารถผ่านจุดนี้มาได้ ?

“เราโชคดีที่เราข้าม Generation นี้มาได้ แต่เราจะโชคดีแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนใครจะรู้ และถ้าเรามัวแต่คิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไปอีก Gen อีก Gen ความหวังในใจผมมันไม่ต่างอะไรจากคนที่ซื้อลอตเตอรี่ แล้วหวังว่านัดหน้าจะต้องถูกไปเรื่อย ๆ

มันลุ้นได้นะ แต่ต้องมี Safeguard ของตัวเอง ทุกครั้งที่เราลงทุน ไม่ว่าจะลงทุนกับเงิน ลงทุนกับตัวเอง หรือลงทุนในการใช้ชีวิต ผมต้องแน่ใจว่ามันมี Exit ที่ถูกเตรียมไว้ในทุก ๆ ช่องทางด้วย”

ซึ่ง Exit ที่คุณโอม Cocktail ได้ออกแบบไว้ให้กับวงนั้นคือ การตั้งกองทุน Cocktail กองทุนสะสมเงินสำหรับสมาชิกภายในวง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่พอเป็นเรื่องเงินทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายแบบที่คิด

GDN-Ohm_Mobile-W320xH100-2

ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ มีปัญหาเรื่องการเก็บเงินเข้ากองทุน Cocktail ด้วย คุณโอมจัดการอย่างไร ?

“สมมติได้เงินมา 20,000 บาท ผมเลือกไม่ให้ตั้งแต่แรกเลย หักไปเลย หมายถึง หักโดยที่เขาไม่เคยเห็นเงินที่ให้ถึงมือเขา คือให้ 17,000 บาท แล้วอีก 3,000 บาท หักเข้าไปอยู่ในกองทุน Cocktail สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไม่มีใครรู้สึกว่าเงินตัวเองหาย และเงินถูกส่งไปออมเรียบร้อยแล้ว”

หากมองในแง่ของการเก็บออม สิ่งที่คุณโอมเลือกทำก็คือ การออมก่อนใช้นั่นเอง เพื่อให้เห็นภาพชัดยิ่งขึ้น ก็เหมือนกับการที่เรา ได้เงินเดือนมาก้อนหนึ่ง สมมติ 20,000 บาท สิ่งที่ควรทำต่อมาคือ แบ่งเงินออกมาอย่างน้อย 10% หรือ 2,000 บาท เพื่อออม เมื่อออมครอบคลุมแล้ว จากนั้นจึงค่อยนำเงินส่วนนี้ไปต่อยอดด้วยการลงทุนอีกที 

สมมติว่า หากวงมีการเลิกา คิดว่าจะจัดการกับเงินกองกลางนี้อย่างไร ?

“ก่อนหน้านี้เราเคยคุยกันว่า สักวันถ้าเราเลิกกัน เราก็จะแยกเงินก้อนนี้ออกเป็น 5 กอง รวมผู้จัดการด้วย และต่างคนต่างไป แต่หลัง ๆ เราเริ่มคุยกันว่า ถ้าเราไม่แยกกัน และปล่อยให้เงินนี้ไปลงทุนต่อ ให้นิติบุคคล Cocktail ไป Invest ในกองทุนนู้น กองทุนนี้ ไปถือหุ้นตัวนู้น ตัวนี้ หรือถือทองคำเอาไว้ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นสินทรัพย์”

อยากให้คุณโอมให้คำแนะนำสำหรับคนที่คิดอยากจะเริ่มต้นลงทุนหน่อย ?

“ผมไม่ได้มองว่า ผมเป็นนักลงทุนที่เข้าใจเรื่องกราฟ เรื่องขึ้นลง หรือ Sideway เพียงแต่เรารู้ว่าเราอยากได้อะไร แล้วเหลือทางเลือกกี่ทาง เพื่อที่เราจะได้หาความรู้ Specific ตรงนั้นได้ หรือถามผู้รู้คนอื่น ๆ เพื่อที่เราจะได้ชั่งน้ำหนักว่าเราจะทำอย่างไร และต้องรู้นิสัยตัวเอง ข้อจำกัดของตัวเอง มากไปกว่านั้นอีกคือ เราต้องรู้ว่าเรา Panic หรือเปล่า ใจแข็งพอที่จะสู้ต่อหรือไม่”

หลายคนกลัวการเริ่มต้น คุณโอมมีคำแนะนำวิธีการก้าวข้ามผ่านความกลัวนี้ได้อย่างไร ?

“ต้องถามก่อนว่า คิดว่าความกลัวเกิดจากอะไร คนเรากลัวเพราะไม่รู้เป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นจริง ๆ ก็ต้องศึกษาให้เข้าใจ 

พูดถึงเราจะลงทุนในอะไร เรากลัว เราไม่กล้าลงทุน เพราะเราไม่รู้ว่าเงินเราไปทำงานอะไรยังไง เพราะงั้น เป็นผมไม่ว่าผมจะลงทุนในอะไรก็ตาม ผมต้องรู้ก่อนว่าผมได้อะไรในสิ่งนั้น และรู้ให้รอบ รู้ให้จบในสิ่งนั้น

พอเรารู้ เราก็จะกลัวมันน้อยลง ยอมรับได้ เข้าใจได้ มันก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น”

คุณโอมคิดว่า ‘เวลา’ มีผลกับ ‘การลงทุน’ หรือไม่ ?

“ถ้าพูดถึงการออม เขาบอกสิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลกคือ ดอกเบี้ยทบต้น
ดอกเบี้ยทบต้นเริ่มต้นทำงานเมื่อไ
กว่าจะเห็นผลเป็นกอบเป็นกำจริง ๆ มันเกิน 10 ปี แล้วทั้งนั้น
ถ้าคุณไม่เริ่มตอนนี้ แล้วคุณจะรอตอนไหนให้มันครบ 10 ปี

เริ่มอีก 5 ปี 10 ปี ก็คือ 15 ปีข้างหน้า ถ้าจะเริ่มอีก 20 ปี มันก็กลายเป็น 30 ปีข้างหน้า มันก็ต้อง Now

คุณโอมคิดอย่างไรกับคำว่า ‘เดี๋ยวก่อน’ กับ ‘เดี๋ยวนี้’ ?

“จำเอาไว้ว่า เดี๋ยวก่อน มันช่วยคุณได้แค่เดี๋ยวนี้ แต่ช่วยคุณในระยะยาวไม่ได้ เพราะจริง ๆ
ถ้าบอกว่าอยากจะผอมก็ต้องเดี๋ยวนี้ เริ่มคุมน้ำหนักกับออกกำลังกาย ถ้าอยากจะมีกล้าม
ก็คงต้องเริ่มยกน้ำหนักเดี๋ยวนี้
ถ้าอยากจะมีความรู้เรื่องหุ้น ก็คงต้องหาหนังสืออ่าน หรือหาความรู้เดี๋ยวนี้” 

จากบทสัมภาษณ์คุณโอมในวันนี้ ทำให้เรารู้ว่า สิ่งแรกที่เราควรจะต้องตระหนักในวันนี้ คือ การรู้ถึงข้อจำกัดของตัวเอง และมองหาทางก้าวข้ามข้อจำกัดที่มีอยู่ ไม่ว่าข้อจำกัดนั้นจะเป็นเวลา อาชีพ ความเป็นอยู่ หรือความไม่รู้ก็ตาม

และสิ่งที่เราต้องทำต่อมาคือ เรียนรู้ และเข้าใจถึงข้อจำกัดเหล่านั้น แล้วเริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป 

เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าคุณไม่เปลี่ยน…ข้อจำกัดจะเปลี่ยนคุณอยู่ดี ! 

มาศึกษาทุกแง่มุมของการลงทุนไปพร้อมกับลงสนามจริง สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และเปิดบัญชีหุ้นได้อย่างง่าย ๆ
คลิกเลย 

📍 ติดตาม VDO สัมภาษณ์ฉบับเต็มของ คุณโอม Cocktail ได้ที่ คลิกที่นี่
#investnow #setinvestnow #investRightNow


แท็กที่เกี่ยวข้อง: