โดยธรรมชาติการลงทุนหุ้น “มีขึ้น มีลง” ถึงแม้ว่าจะเป็นหุ้นที่ดีมีคุณภาพก็จะมีช่วงเวลาที่ราคาลงได้เช่นกัน เช่น เมื่อมีข่าวหรือสถานการณ์ต่าง ๆ เข้ามากระทบ เช่น ความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย สงครามรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อ เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นทั่วโลก ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจและตัดสินใจขายหุ้นออกไป
ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากนักลงทุนมีเวลาการลงทุนที่ค่อนข้างยาวนาน เช่น 15 ปี หรือ 20 ปี การปรับนโยบายลงทุนในหุ้นอาจมีความยืดหยุ่นสูง ตรงกันข้ามกับผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณแต่ยังคงแบ่งเงินบางส่วนมาลงทุนในหุ้น อาจมีคำถามว่า หากเศรษฐกิจกำลังถดถอยควรขายหุ้นออกไปทั้งหมดหรือไม่?
ถึงแม้ว่าสัดส่วนการลงทุนในหุ้นของคนวัยเกษียณจะเล็กน้อย เช่น 5% ของเงินลงทุนทั้งหมด จึงไม่น่าส่งผลกระทบต่อพอร์ตลงทุนโดยรวม เช่น มีเงินลงทุนทั้งหมด 2 ล้านบาท แบ่งเงินไปลงทุนในหุ้น 5% คือ 1 แสนบาท หากขาดทุนหุ้นก็จะเหลือเงินลงทุน 1 ล้าน 9 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม เงินทั้งหมดที่เก็บออมสำหรับวัยเกษียณนั้น “ทุกบาท ทุกสตางค์มีความหมาย” เพราะเป็นเงินก้อนสุดท้ายเพื่อใช้จ่ายในการดำรงชีวิต เช่น หากใช้เงินเดือนละ 8,333 บาท เงิน 1 แสนบาทจะสามารถใช้จ่ายได้นานถึง 1 ปี ดังนั้น เมื่อคนวัยเกษียณกังวลว่าจะขาดทุนก็สามารถขายหุ้นเพื่อรักษาเงินต้นเอาไว้ แล้วรอจังหวะที่ดีค่อยกลับเข้าไปลงทุนอีกครั้ง เพราะอย่าลืมว่าเป้าหมายหลักของการลงทุนสำหรับวัยดังกล่าว คือ การรักษาเงินต้นไม่ให้สูญหาย ไม่ใช่การสร้างผลกำไรในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแค่ขายหุ้นออกไปเท่านั้น ยังมีอีกหลายวิธีที่ทำแล้วสามารถรอดจากมรสุมทางเศรษฐกิจ แต่ก่อนตัดสินใจลงมือทำควรพิจารณาปัจจัยเบื้องต้น ดังนี้
อย่างไรก็ตาม การลงมือจัดพอร์ตลงทุนควรเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ เช่น ต้องการคุ้มครองเงินลงทุน ต้องการสร้างรายได้ประจำ หรือต้องการเพิ่มค่าเงินลงทุน เป็นต้น แต่สิ่งที่สำคัญ คือ พอร์ตลงทุนต้องสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ตัวเองสามารถยอมรับได้
นอกจากการปรับเปลี่ยนการวางแผนการเงิน การมีวินัยกับการใช้จ่ายเพื่อให้รอดในช่วงเศรษฐกิจถดถอยของคนวัยเกษียณแล้ว การพยายามออกห่างจากความผันผวนก็เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้จิตไม่ตก เช่น ไม่ควรดูพอร์ตลงทุนทุกวัน ลดการดูข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็หากิจกรรมที่ทำให้ตัวเองมีความสุข เช่น ดูกีฬา ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร อ่านหนังสือ วาดรูป หรือพูดคุยกับลูกหลาน ก็จะทำให้เกิดความสุขท่ามกลางมรสุมทางเศรษฐกิจได้
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับใครที่สนใจ เรียนรู้เทคนิคและวิธีการบริหารจัดการเงินหลังเกษียณ เพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “วางแผนการเงินหลังเกษียณ สไตล์วัยเก๋า” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่
หรือสนใจเรียนรู้วิธีการสร้างและบริหารพอร์ตหุ้นอย่างมืออาชีพ พร้อมเจาะลึกเทคนิคจัดทำแผนการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยาว เพื่อสร้างพอร์ตลงทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “Portfolio Strategy” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่