หุ้น Value หรือ หุ้นคุณค่า คือ หุ้นของกิจการที่ซื้อขายในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งอาจวัดจากเงินปันผล กำไร หรือ โอกาสการเติบโตของกำไรในอนาคต ทำให้หุ้นชนิดนี้ เป็นที่สนใจของนักลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investor) ซึ่งในช่วงวิกฤติ COVID-19 ที่รายได้และกำไรของกิจการในตลาดหุ้นจำนวนมากลดลง ยิ่งทำให้แนวคิดเรื่องหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า เพิ่มความสำคัญมากขึ้น เป็นสิ่งที่เราต้องใช้เกาะเกี่ยวยึดโยง ในวันที่ตลาดหุ้นผันผวนขึ้นลงแรง ซึ่งผมคิดว่ายังคงทันสมัยเหนือกาลเวลา และควรค่าต่อการนำไปใช้ฝ่าวิกฤติด้วย 7 ข้อดังนี้
2. หุ้นคือสินทรัพย์การลงทุน ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าต่อความเสี่ยงมากที่สุด เพราะในระยะยาวแล้ว ตลาดหุ้นจะสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ กิจการขนาดใหญ่จะทยอยเดินหน้าเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์และจะเติบโตขึ้น เศรษฐกิจในระบบทุนนิยมจะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ การลงทุนระยะยาวที่ดีที่สุด จึงต้องแบ่งมาลงทุนในหุ้นด้วยเสมอ เราไม่ต้องกลัวกับวิกฤติที่คาดเดาไม่ได้มากจนเกินไป แต่จงให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์กิจการให้มากที่สุด เมื่อ COVID-19 เข้ามา ทุกกิจการเจอกับภาวะวิกฤติคล้ายกันหมด จงพยายามเลือกกิจการที่ดีที่สุด ที่จะผ่านวิกฤติได้โดยไม่บอบช้ำ หรือได้ประโยชน์จากวิกฤติยิ่งดี
5. หุ้นที่น่าลงทุน ไม่ได้มีแต่หุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่สร้างกำไรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้เท่านั้น แต่ยังมี หุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานไม่ดีแต่กำลังจะดีขึ้น (Turnaround Stock หุ้นกลับตัว) หรือ หุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดีอยู่แล้วและจะดีขึ้นไปอีกในอนาคต (Growth Stock หุ้นเติบโต) โดยหุ้นทั้งสองแบบนี้ จะสามารถสร้างรายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม เป็นรายเดือน รายไตรมาส และรายปี ซึ่งในที่สุดแล้ว ผลประกอบการที่ดีขึ้นต่อเนื่องจะขับเคลื่อนมูลค่ากิจการและราคาหุ้นบนกระดาน
6. ในปีที่ผลประกอบการลดลงมากจากวิกฤติ การจับจ้องที่ อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) อาจเป็นสิ่งลวงตา เหตุเพราะว่า เมื่อราคาหุ้นบนกระดานลดลง อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะ (ดูเหมือน) ยิ่งสูงขึ้น เพราะเป็นการคำนวณจากการจ่ายเงินปันผลปีที่แล้ว แต่สุดท้ายเมื่อบริษัทมีกำไรลดลง บริษัทย่อมไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้เท่าเดิม ดังนั้นการตัดสินใจลงทุนจะดูแต่ค่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลอย่างเดียวไม่ได้
7. การซื้อหุ้น เหมือนการซื้อกิจการ และคนที่มีผลต่อกิจการที่เราลงทุนมากที่สุด คือ ผู้บริหาร จงเลือกหุ้นที่เป็นกิจการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นกิจการกึ่งรัฐวิสาหกิจหรือกิจการแบบมีเถ้าแก่ผสมมืออาชีพ ต้องมีการบริหารงานอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ผู้บริหารเก่ง ซื่อสัตย์ รวมถึงมีระบบการตรวจสอบภายในที่ดี และต้องมองข้ามหุ้นของกิจการที่เคยมีประวัติด่างพร้อย ไม่โปร่งใส มีข่าวคดโกงเชิงนโยบายที่อธิบายไม่ได้ชัดเจน หรือ เคยมีพฤติกรรมเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยมาก่อน หุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีมากกว่า 700 ตัว ดังนั้น จงวางเงินเรา เฉพาะในที่ที่มั่นใจ
สำหรับใครที่สนใจอยากคัดกรอง “หุ้นดี ราคาถูก” ด้วยตนเอง เข้าใช้งานได้ที่เว็บไซต์ www.setsmart.com ได้เพียงแค่สมัครบริการ SETSMART มีค่าใช้จ่ายเพียง 250 บาทต่อเดือน ซึ่งเมื่อเทียบกับข้อมูลที่จะได้รับ เช่น ภาวะการซื้อขาย เทรนด์นักลงทุนต่างชาติ หรือข้อมูลหุ้น อนุพันธ์ และกองทุนรวม ครบจบในเว็บเดียว ก็ถือว่าคุ้มค่ามากเลย!!! >> คลิกที่นี่
และสำหรับมือใหม่ที่สนใจเรียนรู้สไตล์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า หลักพื้นฐานในการประเมินมูลค่าหุ้น เพื่อคัดเลือกหุ้นดีเข้าพอร์ตลงทุน ตลอดจนกลยุทธ์การคัดเลือกหุ้น และบริหารพอร์ตหุ้นในแต่ละสภาวะ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “ลงทุนในหุ้นฉบับมือใหม่” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่