ลงทุนสู้เงินเฟ้อด้วยกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาว เน้นรับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญในช่วงที่เงินเฟ้อสูงเช่นนี้ กองทุนรวมประเภทนี้กลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่นักลงทุนหมายปอง เนื่องจากตัวกองทุนมีลักษณะเงื่อนไขที่สามารถปรับขึ้นราคาได้หากต้นทุนสูงขึ้น จึงเป็นสินทรัพย์อีกประเภทหนึ่งที่สามารถต้านภัยจากเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี
หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจ อย่างสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเงินเฟ้อล่าสุดเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ระดับ 8.6% สูงสุดในรอบ 40 ปี เช่นเดียวกับอัตราเงินเฟ้อของไทยเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 7.1% ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี 9 เดือน โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลพวงวิกฤติ COVID-19 ที่ทำให้การผลิต การขนส่งสินค้าติดขัด ส่งผลให้อุปสงค์และอุปทานไม่สมดุล ทำให้ราคาสินค้า ต้นทุนวัตถุดิบ มีการเร่งตัวขึ้น ประกอบกับประเด็นความขัดแย้งของสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ได้กดดันให้ราคาพลังงานทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น จึงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว
จากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงเกินไป ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้ต้นทุนบริการ ต้นทุนการผลิต ค่าครองชีพปรับสูงขึ้นตามไปด้วย ผลที่ตามมา คือ ผู้บริโภคตัดสินใจชะลอการจับจ่ายใช้สอย และอาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจ Stagflation (อัตราเงินเฟ้อสูง อัตราดอกเบี้ยต่ำ) ส่งผลให้ผู้ออกนโยบาย เช่น ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาด หากเป็นเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อมูลค่าที่เหมาะสมของสินทรัพย์ลงทุน เช่น หุ้น ตราสารหนี้ เป็นต้น และทำให้พอร์ตลงทุนโดยรวมได้รับกระทบด้วย
คำถามคือ หากนักลงทุนคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะมีทางเลือกการลงทุนใดบ้างที่ยังคงเป็นทางเลือกที่ดี พูดง่าย ๆ คือ สามารถสร้างผลตอบแทนเอาชนะเงินเฟ้อได้
หากพิจารณาจากข้อมูลผลตอบแทนกลุ่มสินทรัพย์ลงทุนกับอัตราเงินเฟ้อ สินทรัพย์ลงทุนแต่ละประเภทจะได้รับผลกระทบที่แตกต่างกัน เช่น เมื่ออัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น ผลตอบแทนที่แท้จริงของพันธบัตรและตราสารหนี้ (พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ตราสารหนี้โลก) ปรับลดลง ขณะที่ผลตอบแทนของสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน จะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้
ในอีกด้านหนึ่ง หากมองว่านักลงทุนมีการจัดพอร์ตลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงอยู่แล้ว (เช่น หุ้น 60% ตราสารหนี้ 40%) การตัดสินใจลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก ด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น ไม่มีความเชี่ยวชาญ รับความเสี่ยงระดับสูง ๆ ไม่ได้ เป็นต้น
ดังนั้น การเลือกลงทุนไปยังกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะนอกจากให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อสูง (ผลตอบแทนอยู่ในระดับเดียวกับหุ้น) ยังช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนได้อีกด้วย
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเลือกลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินค้า บริการขั้นพื้นฐานที่จำเป็นอยู่แล้วในการดำรงชีวิต เช่น ทางด่วน พลังงาน สายส่ง ท่อไฟเบอร์ เสาไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งการให้บริการจะมีลักษณะเงื่อนไขที่สามารถปรับขึ้นราคาได้ หากต้นทุน (หรืออัตราเงินเฟ้อ) ปรับตัวสูงขึ้น พูดง่าย ๆ คือ สามารถผลักภาระบางส่วนให้กับลูกค้าหรือผู้ใช้งานได้ ส่งผลให้บริษัทเหล่านี้สามารถรักษาอัตรากำไร (Profit Margin) ได้ต่อเนื่อง รอดพ้นจากภัยเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี
สำหรับระดับผลตอบแทนที่ควรจะได้รับ ในมุมมองของ Baillie Gifford ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในระยะยาว คาดการณ์ว่า ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ผลตอบแทนจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานจะอยู่ที่ 6.00% ต่อปี ขณะที่หุ้นและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะให้ผลตอบแทนต่อปีระดับ 4.50% และ 5.25% ตามลำดับ
หากนักลงทุนมีความสนใจลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน แต่อาจมองว่าการลงทุนในต่างประเทศมีความไกลตัวเกินไปหรือข้อมูลยังไม่พร้อม อาจลองศึกษาข้อมูลของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่ซื้อขายบนกระดานตลาดหุ้นไทย เนื่องจากมีหลายกองทุนที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่น่าสนใจ หรือลงทุนผ่านกองทุนรวมไทยที่มีนโยบายลงทุนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีอีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ดี นักลงทุนต้องทำการศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งทั้งในด้านความเสี่ยง ความผันผวน สภาพคล่อง ที่สำคัญ สัดส่วนและความเหมาะสมของพอร์ตลงทุน รวมถึงควรเพิ่มความระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสเติบโตของเงินลงทุนได้ในระยะยาว
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่สนใจ เรียนรู้ลักษณะพื้นฐาน ผลตอบแทน ความเสี่ยง นโยบายการลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ตลอดจนวิธีการวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจเลือกลงทุน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “รอบรู้ลงทุน REIT และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่