ด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีและการพัฒนาด้านการขนส่ง ทำให้เกิดความสะดวกสบายด้านการบริการมากขึ้น แต่มีหลายคนที่ไม่เคยสังเกตพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ทำได้แสนง่ายดาย เพียงไม่กี่คลิกก็สามารถซื้อสินค้าได้ มารู้ตัวอีกที คือ มีหนี้ที่ต้องจ่ายเกินกำลังไปแล้ว
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย และสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ระบุว่าในปี 2561 คนไทยกว่า 21 ล้านคน หรือ 30% ของประชากรทั้งหมด “มีหนี้” โดยกลุ่มที่เป็นหนี้มากที่สุด คือ วัยเริ่มทำงาน อายุ 25 - 35 ปี และกว่าครึ่งหนึ่งของคนอายุ 30 ปี มีหนี้จากสินเชื่ออุปโภคบริโภคและหนี้บัตรเครดิต
“หนี้บัตรเครดิต” ปัญหายอดฮิตของคนไทยในปัจจุบัน
เพราะการที่ผู้ใช้ขาดวินัยและความระมัดระวัง จนนำไปสู่ภาวะการมีหนี้สินเรื้อรังยากต่อการแก้ไขในอนาคต บัตรเครดิตมีดอกเบี้ยกว่า 16 - 25% ต่อปี และคำนวณเป็นรายวัน ดังนั้น หากใช้วิธีการผ่อนจ่ายชำระขั้นต่ำไปเรื่อยๆ จะนำไปสู่การมีหนี้สินไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งไปกว่านั้นหากใช้การบริหารการเงินที่ผิดวิธี เช่น กดเงินสดจากบัตรเครดิตใบใหม่เพื่อนำมาชำระหนี้บัตรเครดิตใบเดิม จะยิ่งทำให้ดอกเบี้ยจ่ายพอกพูนไม่หมดสิ้น
“หยุดสร้างหนี้ รีไฟแนนซ์ แบนหนี้เก่า” คือ วิธีการจัดการหนี้บัตรเครดิตที่ดีที่สุด
วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการหนี้บัตรเครดิต คือ รู้จักจัดการกับหนี้สินให้ถูกวิธี หยุดสร้างหนี้เพิ่ม รีไฟแนนซ์หนี้เดิมให้ดอกเบี้ยต่ำลง และลดหรือโปะหนี้เก่าให้หมดไปในที่สุด ดังนั้น เทคนิคการ “รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต” จึงเป็นอีกวิธีที่สามารถใช้ในการจัดการกับหนี้บัตรเครดิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คือ การขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินเดิมหรือสถาบันการเงินใหม่ที่จ่ายดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิมแล้วนำมาชำระหนี้บัตรเครดิตเดิมทั้งหมด ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ หรือเรียกว่า... โปะหนี้บัตรหรือปิดบัตรเครดิต
หากมีหนี้จากบัตรเครดิตหลายบัตร การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะเป็นการรวมหนี้มาไว้ด้วยกันในแหล่งเดียว แล้วผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง วิธีนี้จึงช่วยแบ่งเบาภาระการผ่อนต่อเดือน และใช้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานขึ้น ทำให้ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินมากยิ่งขึ้น โดยมีกระบวนการ ดังนี้
การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเป็นทางออกที่ช่วยให้สามารถจัดการหนี้สินที่เกินความสามารถในการจ่าย ให้สามารถผ่อนชำระต่อเดือนได้ลดลง ทำให้การใช้จ่ายในครัวเรือนมีสภาพคล่องมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรมีการวางแผนใช้จ่ายเงินในอนาคตต่อไปด้วย เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวและไม่เกิดปัญหาการมีหนี้สินท่วมตัวอีก
เทคนิคในการวางแผนทางการเงิน
การสร้างวินัยทางการเงิน เป็นหัวใจสำคัญที่สามารถช่วยให้แผนการใช้จ่ายเงินเป็นระบบ รวมถึงจัดการกับหนี้สินได้อย่างเหมาะสมตามคติ “หยุดสร้างหนี้ รีไฟแนนซ์ แบนหนี้เก่า” และสร้างเงินออมให้เกิดดอกผลงอกเงยขึ้น เชื่อว่าการบรรลุเป้าหมายทางการเงินคงจะไม่ไกลจากความเป็นจริงอย่างแน่นอน
สำหรับผู้ที่สนใจ อยากเรียนรู้เทคนิคและกระบวนการวางแผนชำระหนี้อย่างถูกต้อง เพื่อให้มีเงินเหลือออม สามารถเรียนรู้เพิ่มเติม ผ่าน e-Learning หลักสูตร “หมดหนี้ มีออม” ได้ฟรี!! >> คลิกที่นี่