Fintech ผู้ช่วยวางแผนลงทุนยุคดิจิทัล มีอะไรบ้าง
ปัจจุบันการให้บริการทางการเงินมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำเทคโนโลยีทางการเงินหรือ FinTech เข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถ เพิ่มประสิทธิภาพ และอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับโลกยุคดิจิตอล
นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ FinTech ประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งเลือกใช้ให้เหมาะกับตนเอง เพราะ FinTech เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนมากยิ่งขึ้น หากใช้อย่างไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม ย่อมทำให้เกิดความเสี่ยง และอาจนำไปสู่ความเสียหายได้
ในยุคดิจิทัลแบบนี้การเริ่มต้นลงทุนนั้นแสนง่าย เพราะมีผู้ช่วยที่เรียกว่า Fintech ซึ่งเกิดจากการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในด้านการเงินต่าง ๆ มากมาย เช่น การทำธุรกรรมการเงินของธนาคารผ่าน Mobile Application การจ่ายเงินผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ทำให้สถาบันการเงินหลายแห่ง เช่น ธนาคาร บล. บลจ. และ บลน. ได้มีการพัฒนา Fintech มาช่วยให้บริการวางแผนลงทุนสร้างความมั่งคั่ง (Wealth Planning) แบบครบวงจรแก่นักลงทุนทั่วไปด้วยเช่นกัน เพื่อให้มีความสะดวก ง่าย และสร้างความมั่นใจในการเริ่มออมและลงทุนสู่เป้าหมายอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น ลองทำความรู้จักกับ “3 เครื่องมือวางแผนลงทุนยุคดิจิทัล” ที่จะมาช่วยให้การลงทุนไม่ยากอีกต่อไป ดังนี้
1. วางแผนลงทุนตามเป้าหมาย กับ Robo – Adviser
ที่เสมือนเป็นผู้จัดการการลงทุนให้คุณอย่างครบวงจร ตั้งแต่...
- จัดพอร์ตลงทุนเพื่อเป้าหมาย เมื่อคุณเลือกเป้าหมายการเงินที่ต้องการแล้ว Robo – Adviser จะช่วยนำปัจจัยต่าง ๆ มาคำนวณ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราผลตอบแทน ระยะเวลา ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ ทำให้คุณมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนและเป็นไปได้ เพราะรู้จำนวนเงินที่ต้องลงทุนต่อเดือน รู้สัดส่วนการลงทุนในทางเลือกต่าง ๆ และรู้อัตราผลตอบแทนที่คาดหวังเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้
- สแกนสินทรัพย์ลงทุนสำหรับจัดพอร์ตลงทุน เพราะแค่สินทรัพย์ลงทุนหลัก ๆ อย่างหุ้นและกองทุนรวมในปัจจุบันก็มีมากกว่า 1,000 ทางเลือกแล้ว Robo – Adviser จะสามารถช่วยสแกนหาหลักทรัพย์ดี ๆ มาเข้าพอร์ตลงทุนของคุณจากปัจจัยต่าง ๆ ได้ เช่น ปัจจัยทางเทคนิค/พื้นฐาน ประเภทสินทรัพย์ ประวัติการจ่ายเงินปันผล ผลการดำเนินงานในอดีต การเปรียบเทียบสินทรัพย์ที่ใกล้เคียงกัน การจัดลำดับหรือให้คะแนนสินทรัพย์ เป็นต้น รวมทั้งสามารถจำลองผลการลงทุน หรือที่เรียกเป็นศัพท์การลงทุนเท่ ๆ ว่า “Backtesting” โดยโปรแกรมจะใช้ข้อมูลราคาในอดีต เพื่อคำนวณให้เห็นผลตอบแทนย้อนหลังเมื่อเทียบกับราคาตลาดในปัจจุบัน ช่วยให้คุณสามารถเลือกลงทุนได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
- ลงทุนและปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ คุณสามารถสร้างวินัยลงทุนด้วยการสมัครบริการส่งคำสั่งซื้อแบบ DCA แบบอัตโนมัติ โดยระบุช่วงเวลาซื้อได้ตามใจ เช่น ทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือ ทุกเดือน โดยมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่มาก และเมื่อสถานการณ์ลงทุนเปลี่ยนไป Robo – Adviser จะช่วยติดตามและแนะนำแนวทางปรับสัดส่วนการลงทุนให้คุณ เพื่อให้คุณยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังได้
- ติดตามพอร์ตลงทุนได้ด้วยตัวเอง เมื่อคุณลงทุนแล้ว ก็สามารถเข้าไปดูสรุปผลการลงทุนในแต่ละวัน แต่ละเดือนได้สะดวกทุกที่ ทุกเวลา ผ่านช่องทางออนไลน์ของสถาบันการเงินนั้น ๆ
2. บริหารเงินลงทุนอัตโนมัติ กับ AI Portfolio Manager
ที่เสมือนเป็นผู้ช่วยตัดสินใจด้านการลงทุน โดยใช้วิธีการคิด (Algorithm) ด้วยการเรียนรู้จากตัวอย่าง ข้อมูลสถานการณ์ลงทุนปัจจุบัน และข้อมูลผู้ลงทุนทั้งส่วนตัวและทางการเงินที่เคยให้ไว้มาช่วยปรับพอร์ตลงทุน เพราะแม้คุณจะเริ่มต้นด้วยสัดส่วนพอร์ตที่เหมาะสม แต่เมื่อเวลาผ่านไปสินทรัพย์แต่ละประเภทจะมีการเติบโตไม่เท่ากัน จนทำให้สัดส่วนพอร์ตต่างไปจากเดิม จนมีความจำเป็นต้องปรับสัดส่วน (Rebalancing) ให้กลับมาสู่พอร์ตที่สมดุลตามเดิม เมื่อคุณใช้บริการ AI Portfolio Manager จึงทำให้การควบคุมสัดส่วนและความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นเรื่องที่แสนง่าย ซึ่งปัจจุบัน บลจ. หลาย ๆ แห่ง ก็ได้มีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับกองทุนรวม แถมใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่มาก สามารถศึกษารายละเอียดได้ในหนังสือชี้ชวนของกองทุน
3. ลงทุนสม่ำเสมอผ่านการใช้จ่าย กับ Micro – Investing
ที่เสมือนเป็นผู้ช่วยออมและลงทุนอัตโนมัติ โดยมีแนวคิดว่า จะช่วยตัดเงินส่วนหนึ่งจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณ เช่น ค่าช้อปปิ้ง ค่าเดินทาง ค่าสาธารณูปโภค เข้ามาสะสมไว้เป็นเงินสำหรับลงทุน ทำให้เหมาะกับคนที่ไม่สามารถออมเองได้และไม่มีเงินก้อนมาลงทุน ซึ่งในประเทศไทยก็ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาบริการนี้ เพื่อช่วยให้คนไทยทุกที่ ทุกชนชั้นสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น
แม้ยุคดิจิทัลจะมีตัวช่วยการลงทุนที่หลากหลาย แต่คำว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน” ยังเป็นประโยคที่เป็นจริงเสมอ การทำความเข้าใจสิ่งที่ตนเองลงทุนจึงยังเป็นสิ่งจำเป็น เพราะไม่มีใครสามารถดูแลเงินของเราได้ดีเท่ากับตัวคุณเอง
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้น ขอแนะนำ “Settrade Streaming” แอปพลิเคชันสำหรับซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ที่จะช่วยให้คุณไม่พลาดทุกโอกาสการลงทุน ส่งคำสั่งซื้อขาย ง่าย รวดเร็ว ครบครันด้วยข้อมูลพื้นฐานและกราฟเทคนิค พร้อมฟังก์ชันเสริมมากมายที่จะช่วยให้คุณซื้อขายได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานได้ฟรี!!!
Application for iOS : https://apps.apple.com/th/app/streaming-for-iphone/id327221811
Application for Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.settrade.streaming&hl=th&gl=US
และสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนรวม ก็ต้องแอปพลิเคชันนี้เลย “Streaming Fund+” ที่จะทำให้การซื้อขายกองทุนรวมเป็นเรื่องง่าย สามารถเช็คสถานะคำสั่งซื้อขายกองทุนรวม ติดตามพอร์ตการลงทุนในกองทุนรวม ดูข้อมูลของกองทุนรวมเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน แถมยังสามารถ Login ด้วย Username เดียวกันกับ Settrade Streaming ให้คุณเข้าถึงกองทุนรวมได้ทุกที่ทุกเวลา
Application for iOS : https://apps.apple.com/us/app/streaming-fund/id1558410026
Application for Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.settrade.streaming.fundplus&hl=th&gl=US