Leveraged & Inverse ETFs หรือ L&I ETFs

Leveraged & Inverse ETFs หรือ L&I ETFs

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบลงทุนซื้อขายในระยะสั้นเพื่อเก็งกำไร หรือต้องการป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตขาลง... Leveraged & Inverse ETFs หรือ L&I ETFs อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ที่จะช่วยให้คุณสามารถบริหารพอร์ต และสร้างผลตอบแทนได้ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวน

หลายคนคงเคยรู้จักกับ ETF หรือ Exchange Traded Fund กันมาบ้างแล้ว ซึ่ง ETF เป็นกองทุนรวมที่ซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แบบ Real-time เหมือนหุ้นตัวหนึ่งโดยจะมีนโยบายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหรือราคาสินทรัพย์ที่กองทุนใช้อ้างอิง (Passive Fund)

ในขณะที่ Leveraged & Inverse ETFs หรือ L&I ETFs อาจจะเป็นคำที่ใครหลายคนเพิ่งเคยรู้จักหรือได้ยินเป็น ครั้งแรก…..แล้ว L&I ETFs คืออะไร แตกต่างจาก ETF ทั่วไปอย่างไร?

L&I ETFs คืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจ?

Leveraged & Inverse ETFs หรือ L&I ETFs เป็นกองทุนรวม ETF ประเภทพิเศษที่มีการบริหารกองทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนรายวันที่เป็น “เท่าทวีคูณ” หรือ “ตรงกันข้าม” กับดัชนีอ้างอิง ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าเดิมแม้ใช้เงินลงทุนเท่าเดิม และยังใช้เป็นเครื่องมือสำหรับป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย โดย L&I ETFs สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

  • Leveraged ETF: มุ่งหวังสร้างผลตอบแทนรายวันเป็น “เท่าทวีคูณ” ของดัชนีอ้างอิง เช่น 2 เท่า (2X) เช่น หากดัชนีปรับขึ้น +1% ในวันนั้น Leveraged ETF แบบ 2X จะให้ผลตอบแทนประมาณ +2% จึงเหมาะกับการใช้เพื่อทำกำไรในช่วงตลาดขาขึ้น
  • Inverse ETF: มุ่งหวังผลตอบแทนรายวันในทาง “ตรงกันข้าม” กับดัชนีอ้างอิง โดยมีทั้งแบบ -1 เท่า (1I) และ -2 เท่า (2I) เช่น หากดัชนีปรับขึ้น +1% ในวันนั้น Inverse ETF แบบ 1I จะให้ผลตอบแทนประมาณ -1% และ Inverse ETF แบบ 2I จะให้ผลตอบแทนประมาณ -2% จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นเครื่องมือเพื่อป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตหุ้นในช่วงตลาดขาลง

ตัวอย่าง L&I ETFs

LTF-LI-img01

L&I ETFs ต่างจาก ETF ปกติอย่างไร?

ลองเปรียบเทียบเป็นตารางให้เห็นภาพชัดเจน ถึงความแตกต่างของ ETF โดยทั่วไป และ L&I ETFs ได้ ดังนี้

 ETF (Passive)L&I ETFs
กลยุทธ์การลงทุน
  • สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (Passive)
  • ถือสินทรัพย์จริงตามสัดส่วนของดัชนี
  • สร้างผลตอบแทนแบบทวีคูณ (Leveraged) หรือตรงกันข้าม (Inverse) กับดัชนีอ้างอิงแบบรายวัน
  • อาจมีการใช้อนุพันธ์ (เช่น ฟิวเจอร์ส) ในการบริหารให้กองทุนสร้างผลตอบแทนเป็นทวีคูณหรือสวนทางกับดัชนีอ้างอิง
  • มีการปรับพอร์ตทุกวัน (Daily Reset)
ระยะเวลาลงทุนที่เหมาะสมลงทุนระยะยาว ซื้อแล้วถือต่อได้เหมาะกับการเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงพอร์ตระยะสั้น (หากถือยาว ผลตอบแทนอาจไม่ตรงกับดัชนีอ้างอิง โดยเฉพาะช่วงตลาดผันผวน)
โอกาสทำกำไรเฉพาะตลาดขาขึ้นได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง
เหมาะสำหรับ ผู้ลงทุนใหม่ และผู้มีประสบการณ์ลงทุนผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อน สามารถติดตามการลงทุน และยอมรับความเสี่ยงได้
หากตลาดผันผวน

จะเห็นได้ว่า L&I ETFs เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่า ETF ทั่วไป และไม่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว เนื่องจากกองทุนจะมีการ ปรับสัดส่วนการลงทุนทุกวัน (Daily Rebalance) เพื่อให้ผลตอบแทนตรงตามเป้าหมายแบบ "วันต่อวัน" เท่านั้น ดังนั้น เมื่อผู้ลงทุนถือกองทุนเกิน 1 วัน ผลตอบแทนที่ได้รับอาจจะไม่ตรงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีจริง โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวนสูง เพราะกองทุนจะมีการ คำนวณผลตอบแทนรายวันแบบทบต้น (Compounding Effect) นั่นเอง นอกจากนี้ L&I ETFs ยังอาจมีการใช้ อนุพันธ์ ในการบริหารพอร์ต ซึ่งมักทำให้ค่าธรรมเนียมสูงกว่า ETF ทั่วไปอีกด้วย

ตัวอย่างการเคลื่อนไหวราคาของ Leveraged ETF (2X) เทียบกับดัชนีอ้างอิง

 ดัชนี หรือ ETF (1X)BenchmarkLeveraged ETF (2X)
วันที่ดัชนีผลตอบแทนรายวันผลตอบแทนสะสมผลตอบแทนสะสมแบบ 2 เท่ามูลค่าหน่วยลงทุนผลตอบแทนรายวันผลตอบแทนสะสม
วันที่ 0100 จุด   100 บาท  
วันที่ 1110 จุด10%10%20%120 บาท20%20%
วันที่ 299 จุด-10%-1%-2%96 บาท-20%-4%

อธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ ดังนี้

วันที่ 0ดัชนีอยู่ที่ 100 จุด และ ETF (2X) มีราคา 100 บาท
วันที่ 1ดัชนีปรับขึ้นเป็น 110 จุด ทำให้ได้ผลตอบแทนรายวัน +10%
ETF 2X จึงได้รับผลตอบแทน +20% ราคาจึงปรับตัวขึ้นเป็น 120 บาท
วันที่ 2ดัชนีปรับลดลงมาที่ 99 จุด ทำให้ได้ผลตอบแทนรายวัน -10% จากวันก่อนหน้า
ETF 2X จึงได้รับผลตอบแทน -20% ราคาจึงลงมาอยู่ที่ 96 บาท

จะเห็นได้ว่าราคาของกองทุนไม่เท่ากับดัชนีอ้างอิง เพราะการคำนวณแบบทบต้น (Compounding Effect) ทำให้ผลตอบแทนสะสมของ Leverage ETF อยู่ที่ -4% ซึ่งจะต่ำกว่าผลตอบแทนของดัชนีที่คาดไว้ (Benchmark) ที่ -2% ทั้งนี้ ในบางกรณี เช่น เมื่อดัชนีเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวต่อเนื่อง (Continuous trend) ผลตอบแทนของ L&I ETFs อาจดีกว่า Benchmark ได้เช่นกัน

การอ่านสัญลักษณ์ของ L&I ETFs

มาถึงตรงนี้หลายคนคงสนใจและอยากเริ่มซื้อขาย L&I ETFs กันแล้ว ชวนมาทำความรู้จักกับ สัญลักษณ์ของ L&I ETFs กันก่อน โดยจะประกอบด้วยตัวอักษรความยาวสูงสุดไม่เกิน 10 ตัว ดังนี้

LTF-LI-img02

ตัวอย่างเช่น
2X01SET50 > คือ Leveraged ETF ที่ให้ผลตอบแทน 2 เท่าของดัชนี SET50 ที่ออกโดย บลจ. ที่มีรหัส 01

L&I ETFs…ใช่สำหรับคุณหรือไม่?

ก่อนจะเริ่มซื้อขาย L&I ETFs...อยากให้คุณลองสำรวจตนเองดูก่อนว่าคุณเหมาะกับ L&I ETFs หรือไม่?

  • เข้าใจและรับความเสี่ยงของสินค้าที่ซับซ้อนได้
  • ติดตามและทบทวนสถานะพอร์ตของตนเองเป็นประจำทุกวัน
  • มีประสบการณ์ลงทุนในระดับหนึ่ง ไม่ใช่มือใหม่หัดเทรด
  • รู้ว่า L&I ETFs มีการ รีเซ็ตผลตอบแทนรายวันและอาจเกิดผลจากการคำนวณแบบทบต้น
  • มองหาโอกาสทำกำไรจากแนวโน้มตลาดระยะสั้น หรือ ต้องการป้องกันความเสี่ยงพอร์ตหุ้น

ถ้าอ่านแล้วใช่หลายข้อ…L&I ETFs อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะกับสไตล์การลงทุนของคุณ

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะเห็นได้ว่า L&I ETFs สามารถช่วยให้ผู้ลงทุนใช้เป็นเครื่องมือในการปรับพอร์ตการลงทุนของตนเองได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรหรือป้องกันความเสี่ยง ทั้งนี้ ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อจะได้นำไปปรับใช้กับกลยุทธ์การลงทุนของตนเองได้อย่างเหมาะสม

ดูข้อมูล L&I ETFs เพิ่มเติมได้ที่ https://www.set.or.th/th/market/product/etf/introduction