แม้ DR จะมีลักษณะคล้ายหุ้น แต่ก็มีข้อแตกต่างในบางเรื่องที่นักลงทุนควรทำความเข้าใจเพิ่มเติม เช่น หลักทรัพย์ที่สามารถนำมาออกเป็น DR ได้ ค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย และการส่งคำสั่งซื้อขาย เป็นต้น การทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
หลักทรัพย์ที่สามารถนำมาออกเป็น DR ได้
หุ้นหรือหน่วยลงทุน หุ้นหรือหน่วยลงทุน เช่น ETF, REIT, Infra Fund, Infra Trust ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ ก.ล.ต. ยอมรับ | |
หุ้นที่มีการซื้อขายในประเทศกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยหุ้นดังกล่าวต้องมีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดเฉลี่ยย้อนหลัง 15 วันทำการไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท |
ค่าธรรมเนียม
ในการซื้อขาย DR จะมีตัวกลางที่เราเรียกว่า “Market Maker” ซึ่งเป็นผู้ที่นำคำสั่งซื้อจากนักลงทุนที่เข้าซื้อ DR ไปดำเนินการซื้อหุ้นในต่างประเทศ ดังนั้น DR จึงมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
ค่าธรรมเนียมซื้อขายหรือค่าคอมมิชชั่น
เหมือนกับการซื้อขายหุ้นทั่วไป
ค่าธรรมเนียมที่ผู้ออกอาจเรียกเก็บ
ซึ่งจะเกิดขึ้นในกรณีที่จ่ายสิทธิประโยชน์ เช่น เงินปันผล หรือ เก็บตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญารับฝาก DR ดังนั้น เราต้องอ่านและศึกษาข้อมูลอย่างรอบครอบก่อนที่จะซื้อ DR
วิธีการและเงื่อนไขการส่งคำสั่งซื้อขาย DR
ส่งคำสั่งซื้อขายเหมือนหุ้น โดยจะได้จับคู่คำสั่งซื้อขายตามหลัก Price Then Time Priority | |
ราคาสูงสุด – ราคาต่ำสุดในแต่ละวัน ไม่เกิน 30 % ของราคาปิดวันทำการก่อนหน้า | |
หน่วยการซื้อขายขั้นต่ำ 1 Board Lot เท่ากับ 1 DR | |
ช่วงราคาซื้อขาย (Tick Size) เหมือนหุ้นสามัญ |