อนุพันธ์ที่ซื้อขายในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือที่เรียกว่าตลาด TFEX (Thailand Futures Exchange) มี 2 ประเภทหลักๆ คือ “ฟิวเจอร์ส” (Futures) และ “ออปชัน” (Options)
ฟิวเจอร์ส (Futures)
หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
คือ สัญญาที่ผู้ซื้อกับผู้ขายตกลงจะซื้อขายสินค้า โดยกำหนดราคาตั้งแต่วันนี้ แต่ส่งมอบและชำระเงินในอนาคต ผู้ซื้อและผู้ขายไม่จำเป็นต้องถือสัญญาไว้จนครบกำหนด แต่อาจซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้โดยผ่าน TFEX ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ผู้ซื้อและผู้ขายมีหน้าที่ “ต้องซื้อหรือขาย” ตามที่ตกลงกันไว้
การสร้างสถานะสัญญาฟิวเจอร์ส สามารถทำได้ทั้ง 2 ฝั่ง จะขายก่อน หรือซื้อก่อนก็ได้ โดยฝั่งผู้ซื้อสัญญา เรียกว่ามี “สถานะซื้อ” หรือ Long Position ส่วนฝั่งผู้ขาย เรียกว่ามี “สถานะขาย” หรือ Short Position
ออปชัน (Options)
หรือสัญญาสิทธิ
คือ สัญญาที่ผู้ซื้อได้รับ “สิทธิซื้อ” หรือ “สิทธิขาย” สินทรัพย์อ้างอิงตามราคา จำนวน และระยะเวลาที่ระบุไว้จากผู้ขาย โดยผู้ซื้อต้องจ่าย “ค่าพรีเมียม” (Premium) และสามารถเลือกที่จะใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้ แต่ผู้ขายมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญา หากผู้ซื้อขอใช้สิทธิ
ออปชันสามารถแบ่งตามลักษณะการใช้สิทธิได้เป็น 2 แบบ คือ คอลออปชัน (Call Options) และพุทออปชัน (Put Options) โดยคอลออปชันจะเป็นสิทธิในการซื้อ ส่วนพุทออปชันจะเป็นสิทธิในการขาย
สถานะของ Options
เสน่ห์ของการซื้อขายอนุพันธ์ คือ ผลตอบแทนและความเสี่ยงจะขึ้นอยู่กับการบริหาร Leverage หรือจํานวนเท่า (หรือเปอร์เซ็นต์) ของมูลค่าของสินทรัพย์ที่ลงทุนเทียบกับเงินที่ใช้ลงทุนจริง ยิ่ง Leverage สูงเท่าไหร่ ความเสี่ยงก็จะสูงมากขึ้นเท่านั้น
เงินลงทุน
100,000 บาท
จะเห็นว่า... หากคาดการณ์ตลาดได้ถูกต้อง การลงทุนในฟิวเจอร์สจะสามารถทำกำไรได้ถึง 10 เท่า
แต่หากคาดการณ์ตลาดผิด ก็มีโอกาสขาดทุนเป็น 10 เท่าเช่นเดียวกัน
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง ต้องมีความมั่นใจในทิศทางราคาของสินค้าอ้างอิงของอนุพันธ์ที่เลือกลงทุนเพื่อไม่ให้เลือกเทรดผิดทาง รวมถึงต้องมีการบริหารเงินลงทุนอย่างเหมาะสมควบคู่กันไปด้วย