5 กฏเหล็กต้องรู้ ถ้าอยากเทรดอนุพันธ์

ตลาดหุ้นมักจะเคลื่อนไหวอย่างมีทิศทางเสมอ เราจึงต้องอ่านเทรนด์ของตลาดหุ้นหรือสินทรัพย์การลงทุนอื่นๆ ให้ออก แม้ว่าการลงทุนในอนุพันธ์จะมีความได้เปรียบมากกว่าการลงทุนในหุ้น คือ สามารถเข้าลงทุนได้ทั้งในสภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง แต่เมื่อมีให้เลือกลงทุนได้ทั้ง 2 ด้าน จึงมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้มากกว่า

นักลงทุนทั้งมือใหม่และมือเก๋าอาจมองว่า... การเข้าซื้อในจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดนั้น จะสร้างกำไรได้จำนวนมาก หลายครั้งเราจึงเลือกที่จะเทรดสวนกระแส เช่น ราคาสินทรัพย์อ้างอิงกำลังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่เราดันไปเปิดสถานะ Short สวนกระแส เพราะมองว่าราคาสูงเกินไปแล้ว 

การเทรดสวนกระแสเช่นนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายหนัก หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงยังปรับเพิ่มขึ้นต่อ ทางที่ดี... เราไม่ควรสวนกระแสของเทรนด์ นอกจากจะมั่นใจจริงๆ ว่ามีโอกาสที่ราคาสินค้าอ้างอิงจะตกลงมา พร้อมกับติดตามผลอย่างใกล้ชิดว่ายังเป็นไปตามแผนการเทรดหรือไม่

นอกจากต้องดูทิศทางของเทรนด์ให้แน่ใจแล้ว เรายังต้องตั้งจุดหยุดขาดทุน หรือจุด Stop Loss ให้ชัดเจนด้วย เพราะการเทรดอนุพันธ์ทุกชนิดตั้งอยู่บนความเสี่ยงที่สูงมากกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ปกติ เมื่อเราเล่นกับของร้อนก็ต้องระวังด้วย ถ้าปล่อยไว้นานๆ จากขาดทุน 5% อาจเป็น 50% ได้ในพริบตา

การลงทุนในตลาด TFEX เป็นการซื้อขายด้วยการวางเงินหลักประกันหรือมาร์จิ้น ข้อดี คือ ทำให้เรามีอำนาจในการเทรดและสามารถสร้างโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น แต่หากเรามองตลาดพลาด ก็ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักได้เช่นกัน ดังนั้น การวางระดับมาร์จิ้นที่เหมาะสมและเพียงพอกับความเสี่ยงที่รับได้ จะช่วยให้การเทรดของเราปลอดภัยไร้กังวล

หัวใจสำคัญของการเทรดอนุพันธ์ คือ ทิศทางราคาของสินค้าอ้างอิง ไม่ว่าจะเป็น... หุ้น ดัชนีราคาหุ้น ทองคำ หรือน้ำมันที่อนุพันธ์นั้นๆ ใช้อ้างอิง เมื่อราคาสินค้าอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลงก็จะส่งผลต่อราคาของอนุพันธ์ด้วย ดังนั้น เราจึงต้องติดตามข่าวสารการลงทุนที่จะกระทบต่อราคาสินค้าอ้างอิง เพราะหากทิศทางหรือกระแสการลงทุนเปลี่ยน ไม่ตรงกับทิศทางที่เราคาดการณ์ ก็จะสร้างความเสียหายอย่างหนักกับพอร์ตลงทุนของเราได้

สุดท้าย... แต่ไม่ท้ายสุดในการเทรดอนุพันธ์ คือ การเลือกอนุพันธ์ที่มีอายุสัญญาเหมาะกับการคาดการณ์ของเรา เช่น เรามองว่าในระยะสั้นตลาดหุ้นอาจปรับตัวลดลงไม่มากนัก แต่จะปรับตัวลดลงในระยะยาวมากกว่า ทั้งๆ ที่คาดการณ์ไว้แบบนั้น แต่เรากลับไปเลือกอายุสัญญาสั้นๆ ก็อาจทำให้เราได้ประโยชน์ไม่เต็มที่

ดังนั้น เราควรเลือกอนุพันธ์ที่มีอายุสัญญาเหมาะกับการคาดการณ์ ซึ่งจะช่วยให้เราได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แถมไม่เสี่ยงกับการถือสัญญาจนหมดอายุจนเกิดความเสียหายในท้ายที่สุด