หากมองย้อนกลับไปนับตั้งแต่ปี 2553 – 2562 ถือว่าเป็นยุคอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ จากนั้นปี 2563 – 2565 เป็นช่วงที่ผู้คนทั่วโลกเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 มีการล็อกดาวน์และปิดเมือง ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจติดขัด ขณะที่สินทรัพย์ลงทุนหลัก เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ให้ผลตอบแทนดีในช่วงแรก แต่หลังอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยเป็นทิศทางขาขึ้น ผลตอบแทนกลับไม่เป็นที่น่าพอใจ
สำหรับปี 2566 ประเมินว่าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค “ดอกเบี้ยสูง เศรษฐกิจผันผวนมากขึ้น” โดยภาพรวมเศรษฐกิจโลกจะมีลักษณะสำคัญ 3 ประการ
ดังนั้น ภาพรวมปีนี้น่าจะเป็นทั้งปีที่มี “ความหวัง” และ “ความจริง” โดยความหวังจะเป็น “อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย” จะไม่ปรับขึ้นรุนแรง และ “การเปิดประเทศของจีน” จะช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ส่วนความเป็นจริงน่าจะเป็นผลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ในช่วง COVID-19 ที่อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
โดยมุมมองต่อเศรษฐกิจโลก ประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งสุดท้ายในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ จากนั้นจะเริ่มส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในไตรมาส 3 ของปีนี้ ส่วนยุโรปอาจเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ ผลักดันต้นทุนค่าครองชีพให้ปรับขึ้น ขณะที่สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันคาดว่าจะไม่รุนแรงขึ้นไปมากกว่านี้ และจีนหลังจากผ่อนคลายมาตรการ Zero-COVID และมาตรการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน สำหรับเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตในช่วงครึ่งแรกของปีนี้และจะชะลอตัวในครึ่งหลังของปี เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวทำให้การส่งออกปรับลดลง การลงทุนภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐก็อ่อนแรงลง แต่ปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต คือ ภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน
สินทรัพย์ลงทุนที่น่าสนใจ
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และใช้เพื่อสำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่สนใจ เรียนรู้พื้นฐานการวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจแบบง่าย ๆ เพื่อจับทิศทางการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ และค้นหาหุ้นเด็ดในแต่ละช่วงเวลา สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “Macro Analysis” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่